|
แม้อาหารสัตว์เลี้ยงจะไม่ใช่สินค้าส่งออกหลักของไทยที่ทุกคนต้องนึกถึงอย่างข้าว ยางพารา หรือสินค้ามูลค่า
สูงที่เป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกของไทยอย่างยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่อาหารสัตว์เลี้ยงก็เป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้เข้าประเทศด้วยมูลค่าเกือบ 1,200
ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2556 และที่สำคัญมูลค่าส่งออกขยายตัวในระดับสองหลักอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย (CAGR)
ร้อยละ 12.5 ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2548-2556 (ยกเว้นปี 2552 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก) นอกจากนี้ ไทยยังเป็น
ผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่อันดับ 7 ของโลก ที่มีสัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.8 ของมูลค่าส่งออก
อาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของโลกในปี 2551 เป็นร้อยละ 4.4 ในปี 2556 อาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งไทยมีศักยภาพในการ
ส่งออกจึงนับเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่น่าสนใจ
|
|
|
![](images/tips/exotic_x_05.jpg) |
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
|
มูลค่าส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยระหว่างปี 2548-2556 |
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_06.jpg) |
|
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
|
“เก็บตกจากต่างแดน” ฉบับนี้ จึงรวบรวมเกร็ดความรู้และข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวโน้มของการเลี้ยง
สัตว์เลี้ยงและการเลือกซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงของผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงแนวโน้มเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง
ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
แนวโน้มเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง
• ลักษณะของประชากรมีผลต่อการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง
โครงสร้างและลักษณะของประชากรที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อความนิยมและพฤติกรรมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง
ของผู้คน อาทิ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในหลายประเทศทั่วโลก และการที่อัตราการเกิดของประชากรมี
แนวโน้มลดลง เพราะประชากรแต่งงานช้าลงและมีแนวโน้มอยู่เป็นโสดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ครอบครัวมีขนาดเล็กลง
จึงมีความต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้คลายเหงาเพิ่มขึ้น ขณะที่การขยายตัวของเมืองทำให้ขนาดของพื้นที่อยู่อาศัย
มีแนวโน้มลดลง หลายครอบครัวเริ่มมีพื้นที่ใช้สอยจำกัดทั้งภายในบ้านและนอกตัวบ้าน จึงต้องเลือกเลี้ยงสัตว์เลี้ยง
ที่มีขนาดเล็กหรือจำกัดจำนวนของสัตว์ที่เลี้ยงเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ของบ้าน
• ประชากรแต่ละภูมิภาคมีความนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงต่างกัน
ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ลาตินอเมริกา และยุโรปตะวันออก มีการขยายตัว
ของจำนวนสัตว์เลี้ยงสูงกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ กล่าวคือ จำนวนสุนัข
และแมวในประเทศกำลังพัฒนามีอัตราขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2 ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2551-2556 ขณะที่จำนวน
สุนัขและแมวในประเทศพัฒนาแล้วลดลงเล็กน้อยในช่วงเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้จำนวนสุนัข
และแมวทั้งหมดในประเทศพัฒนาแล้วจะลดลง แต่จำนวนสุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็กที่ประชากรในประเทศพัฒนาแล้ว
เลี้ยงไว้กลับเพิ่มขึ้น
|
|
|
![](images/tips/exotic_x_05.jpg) |
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
|
ประชากรสุนัข แบ่งตามขนาดและกลุ่มประเทศ
ในปี 2551 และปี 2556 |
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_09.jpg) |
|
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
|
• เจ้าของสัตว์เลี้ยงปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงของตนเสมือนสมาชิกในครอบครัว
การที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้วอยู่อาศัยเพียงลำพังและเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้คลาย
เหงา ทำให้เจ้าของใส่ใจและให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตนเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว เจ้าของสัตว์เลี้ยง
เหล่านี้มักเลือกซื้อสินค้าและบริการอย่างดีแก่สัตว์เลี้ยงของตนเพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็น
อาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง ของเล่น รวมถึงเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ อาทิ ชุด
ซานตาคลอสสำหรับสัตว์เลี้ยง เสื้อผ้าแบรนด์ดังสำหรับสัตว์เลี้ยง
การเลือกซื้ออาหารสัตว์เลี้ยง
• อาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งเป็นที่นิยมมากกว่าอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดเปียก
โดยรวมแล้วอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งยังคงได้รับความนิยมมากกว่าอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดเปียก เนื่องจาก
มีราคาย่อมเยาและคุ้มค่า สะดวกในการเก็บรักษา และเมื่อเปิดแล้วสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าอาหารสัตว์เลี้ยงชนิด
เปียก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งมักมีขนาดจำหน่ายใหญ่กว่าชนิดเปียก ซึ่งก็เป็นข้อดี
ที่ช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงประหยัดทั้งเงินและเวลาในการออกไปซื้ออาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยงชนิด
เปียกจัดเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีเกรดสูงกว่า เมื่อเทียบกับอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแต่ก็มีราคาแพงกว่าด้วยเช่นกัน
• เจ้าของสุนัขนิยมซื้ออาหารสุนัขชนิดแห้งในบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่
เมื่อพิจารณาชนิดของสัตว์เลี้ยงกับชนิดของอาหารที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงนิยมซื้อ พบว่าเจ้าของสุนัขส่วนใหญ่
นิยมเลี้ยงสุนัขของตนด้วยอาหารสุนัขชนิดแห้ง สังเกตจากปริมาณจำหน่ายอาหารสุนัขชนิดแห้งที่มีสัดส่วนกว่า
ร้อยละ 80 ของอาหารสุนัขทั้งหมดที่จำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารสุนัขที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์
ขนาดใหญ่ สำหรับขนาดซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด คือ ถุงพลาสติกขนาด 1,001-2,000 กรัม และถุงกระดาษขนาด
2,001-4,999 กรัม ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีส่วนช่วยให้อาหารสุนัขในบรรจุภัณฑ์
ขนาดใหญ่เป็นที่นิยม เนื่องจากมีราคาต่อหน่วยถูกกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าอาหารสุนัขชนิดแห้งมีแนวโน้มขยายตัว
อย่างรวดเร็วในประเทศกำลังพัฒนาอย่างเม็กซิโกและรัสเซีย สังเกตจากอัตราขยายตัวของบรรจุภัณฑ์ สำหรับ
อาหารสุนัขชนิดแห้งที่คาดว่าจะมีอัตราขยายตัวเฉลี่ยในช่วงระหว่างปี 2556-2561 เป็น 2 เท่าของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นตลาดที่มีปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารสุนัขชนิดแห้งมากที่สุด ขณะที่เยอรมนีเป็นประเทศที่ตลาด
อาหารสุนัขชนิดแห้งกำลังหดตัว เพราะเริ่มถูกแทนที่ด้วยอาหารสุนัขชนิดเปียก ซึ่งมีภาพลักษณ์ว่าเป็นอาหารที่ผลิต
จากวัตถุดิบธรรมชาติมากกว่าอาหารสุนัขชนิดแห้ง
|
|
|
![](images/tips/exotic_x_05.jpg) |
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
|
ปริมาณจำหน่ายอาหารสุนัขทั่วโลก แบ่งตามชนิด
ระหว่างปี 2551-2556 |
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_12.jpg) |
|
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
|
• เจ้าของแมวนิยมซื้ออาหารชนิดเปียกมากกว่าเจ้าของสุนัข
สำหรับอาหารแมว พบว่าเจ้าของแมวนิยมเลี้ยงแมวของตนด้วยอาหารแมวชนิดแห้งและชนิดเปียกในสัดส่วน
ที่ไม่แตกต่างกันนัก แต่ก็นับว่าอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดเปียกเป็นที่นิยมในหมู่เจ้าของแมวมากกว่าเจ้าของสุนัข ทั้งนี้
การที่แมวรับประทานอาหารน้อยกว่าสุนัข ทำให้อาหารแมวชนิดเปียกที่มีบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กพอดีสำหรับรับประทาน
1 ครั้งได้รับความนิยมในหมู่เจ้าของแมว
|
|
|
![](images/tips/exotic_x_05.jpg) |
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
|
ปริมาณจำหน่ายอาหารแมวทั่วโลก แบ่งตามชนิด
ระหว่างปี 2551-2556 |
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_14.jpg) |
|
![](images/tips/tip_june14_J_04.jpg) |
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
|
แนวโน้มเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง
• อาหารสุนัขและอาหารแมวบรรจุกระป๋องมีจำนวนชิ้นที่จำหน่ายสูงสุด
จากข้อมูลในปี 2556 อาหารสุนัขและอาหารแมวที่จำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกทั่วโลกมีจำนวนทั้งสิ้น
41 พันล้านชิ้น แบ่งเป็นอาหารสุนัขราว 15 พันล้านชิ้น และอาหารแมวราว 26 พันล้านชิ้น ในจำนวนดังกล่าว
เป็นอาหารเปียกถึง 30 พันล้านชิ้น ซึ่งรูปแบบของบรรจุภัณฑ์อาหารสุนัขและอาหารแมวชนิดเปียกที่มีจำนวน
จำหน่ายสูงสุด ได้แก่ อาหารบรรจุกระป๋องที่มีปริมาณราว 15 พันล้านชิ้น ตามด้วยถุง Pouch ราว 12 พันล้านชิ้น
อย่างไรก็ตาม อาหารสุนัขและอาหารแมวที่บรรจุในถุง Pouch มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากกว่าอาหาร
สุนัขและอาหารแมวที่บรรจุกระป๋อง
• อาหารสัตว์เลี้ยงที่บรรจุในถุง Pouch ขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น
ปัจจุบันอาหารสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอาหารแมวชนิดเปียกที่บรรจุในถุง Pouch กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะในถุง Pouch ขนาดเล็กสำหรับรับประทานมื้อเดียว (มีน้ำหนักระหว่าง 51-100 กรัม) ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่
เก็บรักษาได้สะดวก ไม่เปลืองพื้นที่ อีกทั้งยังเปิดได้ง่าย จึงสะดวกสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีเวลาน้อย ประกอบกับ
อาหารในถุง Pouch มีปริมาณที่แน่นอน เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงสามารถเลือกซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงที่ขนาดพอดีสำหรับ
1 มื้อ ซึ่งทำให้มีอาหารเหลือทิ้งน้อยลง และไม่ต้องกังวลกับปัญหาโรคอ้วนของสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ การซื้ออาหาร
ในถุง Pouch ขนาดเล็ก ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเลือกซื้ออาหารได้หลากหลายขึ้น เช่น อาจเลือกซื้ออาหาร
ได้หลายรสชาติหรือหลายสูตรขึ้น เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของตนได้รับประทานอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าหลากหลาย |
|
|
![](images/tips/exotic_x_05.jpg) |
![](images/tips/tip_june14_J_16.jpg) |
|
ขนาดของอาหารแมวชนิดเปียกบรรจุถุง Pouch
ที่จำหน่ายในปี 2556 |
|
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_18.jpg) |
|
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
|
• เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องการซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงในบรรจุภัณฑ์ชนิดที่ปิดผนึกได้หลังจากเปิดใช้แล้ว
(Resealable)
ในการเลือกซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงนั้น สิ่งหนึ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องการก็คือ หากอาหารที่ซื้อมายังไม่หมด บรรจุภัณฑ์ของอาหารสัตว์เลี้ยงก็ควรจะปิดผนึกได้อีกครั้ง เพื่อรักษาความสดใหม่และความสะอาดของอาหาร
สัตว์เลี้ยง ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงในการเก็บรักษาอาหารดังกล่าว ทั้งนี้ บรรจุภัณฑ์ที่
ปิดผนึกได้หลังเปิดใช้ชนิดซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด คือ บรรจุภัณฑ์แบบกดปิด (Zip/Press Closures) ที่มักมาพร้อมถุง
Pouch ซึ่งนอกจากจะมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังจัดเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ (User-friendly)
โดยเฉพาะเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นผู้สูงอายุ เพราะสามารถเปิดปิดได้ง่ายกว่าอาหารสัตว์เลี้ยงที่บรรจุในกระป๋องโลหะ
• ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงให้ความสำคัญมากขึ้นกับบรรจุภัณฑ์
การที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตนมาก จึงยินดีที่จะซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงที่มีราคา
แพงขึ้น หากมั่นใจว่าอาหารดังกล่าวจะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงของตน ผู้ผลิตอาหาร
สัตว์เลี้ยงจึงพยายามออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดความสนใจ ให้ข้อมูลที่สำคัญ ตลอดจนเน้นจุดเด่นหรือความพิเศษ
ของสินค้า ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของเจ้าของสัตว์เลี้ยง อาทิ การปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อเน้นว่าผลิต
จากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งอาจรวมถึงการใช้สีเขียวหรือรูปภาพที่แสดงถึงธรรมชาติ การเน้นว่าผลิตจากวัตถุดิบ
ชั้นดี เช่น ปลาแซลมอน รวมถึงการเน้นที่สารอาหารสำคัญหรือคุณสมบัติพิเศษของอาหาร เช่น เป็นอาหารที่มีกรด
โฟลิก (Folic Acid) สูง หรือมีแคลอรีต่ำ
|
|
|
![](images/tips/exotic_x_05.jpg) |
![](images/tips/tip_june14_J_20.jpg) |
|
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง |
|
|
|
“ใช้ปลาแซลมอนเป็นวัตถุดิบ” |
“มีสารอาหารครบถ้วน” |
“ให้พลังงานต่ำเหมาะสำหรับ
สุนัขที่มีปัญหาน้ำหนักเกิน” |
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_22.jpg) |
|
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก www.brit-petfood.com, www.petsmart.com และ www.petco.com |
|
|
![](images/tips/tip_june14_J_20.jpg) |
![](images/tips/exotic_x_03.jpg) |
|
ทั้งนี้ เกร็ดน่ารู้และแนวโน้มเกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกคาดว่าจะเป็นประโยชน์และเพิ่มโอกาสในการ
ส่งออกให้แก่ผู้ส่งออกไทยในระยะถัดไป จากการใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตน ทั้ง
ในส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงและ/หรือบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง |
|
|
|