แปลน ครีเอชั่นส์
ผู้ผลิตและส่งออกของเล่นเด็กจากไม้ยางพาราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 
            EXIM E-NEWS ฉบับนี้เราได้รับเกียรติจากคุณโกสินทร์ วิระพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกของเล่นเด็กผลิตจากไม้ยางพาราเจ้าแรกของโลก ภายใต้แบรนด์ “PlanToys” มาบอกเล่าแนวคิดและประสบการณ์
การดำเนินธุรกิจค่ะ

          จุดเริ่มต้นของธุรกิจ
          บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือแปลนกรุ๊ป
เริ่มต้นธุรกิจเมื่อประมาณ 35 ปีที่แล้ว โดยผู้ก่อตั้ง 7 คนซึ่งจบจากคณะ
สถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดตั้งบริษัท แปลน
อาคิเต็ค จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รับออกแบบอาคารต่างๆ
เช่น ตึกหุ่นยนต์ ตึกใบหยก 1 และ 2 เป็นต้น ต่อมามีความคิดอยากจะ
ทำธุรกิจเพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ ให้สังคม จึงเริ่มต้นเปิดโรงเรียนอนุบาลรักลูก
ซึ่งในปัจจุบันคือ โรงเรียนรุ่งอรุณ มีตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1-มัธยมศึกษา
ปีที่ 6 เป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาแบบองค์รวม (Holistic Learning)
บูรณาการการเรียนรู้สู่ชีวิต ด้วยกระบวนการเรียนรู้ไปกับกิจวัตรประจำวัน
บ่มเพาะลักษณะนิสัยที่ดีในวิถีของการรู้อยู่ รู้กินและรู้ประมาณตนอย่าง
พอเหมาะพอดี
          หลังจากนั้น เมื่อมีประสบการณ์การทำธุรกิจเกี่ยวกับเด็กแล้ว
ผู้บริหารที่มีความถนัดเรื่องงานออกแบบ จึงคิดต่อยอดธุรกิจโดยเริ่มทำ
ของเล่นไม้เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน เพราะมองเห็นโอกาสว่า
ในขณะนั้นไทยยังไม่มีผู้ผลิตของเล่นเด็กจากไม้ บริษัทเริ่มต้นจากการ
นำไม้รีไซเคิลมาผลิต แต่เนื่องจากธุรกิจโตขึ้น วัตถุดิบเริ่มไม่เพียงพอ
ประกอบกับผู้ก่อตั้งท่านหนึ่งเป็นคนจังหวัดตรัง จึงเสนอให้นำไม้ยางพารา
มาทำของเล่น เพราะยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้และ
มีจำนวนมาก เมื่อเกษตรกรกรีดน้ำยางจากต้นแล้วจะโค่นต้นทิ้ง ต้นยาง
พาราที่ถูกโค่นทิ้งมีจำนวนมากและสามารถนำมาทำประโยชน์เป็นของ
เล่นเด็กได้ “PlanToys” จึงเป็นเจ้าแรกของโลกที่นำไม้ยางพารามาแปรรูป
 
  เป็นของเล่นเด็ก ปัจจุบันบริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด มีบริษัทในเครืออยู่ใน 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยมี
สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศไทย

          หลักการบริหาร
          เรายึดหลักใกล้เคียงกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำไปสู่การพัฒนา
อย่างยั่งยืน (Sustainable Development) โดยใช้หลักการ 3 M และ 3 P
          3 M คือ Sustainable Material ใช้วัตถุดิบทั้งไม้ยางพารา กาว และสีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมี มีความปลอดภัย
ทั้งต่อเด็กและธรรมชาติ Sustainable Manufacturing มีกระบวนการออกแบบและผลิตแบบ Eco Design ผู้ออกแบบจะทำงานร่วมกับ
ผู้เชี่ยวชาญเด็ก เพื่อผลิตของเล่นที่มุ่งเน้นพัฒนาการของเด็ก และผลิตโดยใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบให้ได้มากที่สุด ลดของเหลือทิ้งให้น้อย
ที่สุดหรือจนกระทั่งไม่มีเหลือทิ้ง ตามหลักการเพิ่มประสิทธิภาพอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน (Eco Efficiency) ซึ่งวัดจากปริมาณการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งการนำเอาพลังงานธรรมชาติทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานไอน้ำมาใช้ในการผลิต ทำให้เราได้รับ
มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ (ISO 9000) มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14000) นอกจากนี้ ได้รับมาตรฐานคุณภาพสินค้า
ในยุโรป (EN 71) และมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) และ Sustainable Mind การดูแลพนักงานและ
สังคมรอบข้าง โดยทำให้องค์กรเป็น “ศูนย์เรียนรู้และสร้างองค์กรให้เปี่ยมสุข” นอกจากสวัสดิการตามมาตรฐานที่พนักงานได้รับแล้ว บริษัท
ได้มีการสอนอาชีพ จัดตั้งสหกรณ์ร้านค้า และที่สำคัญคือจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อสนับสนุนให้พนักงานมีเงินออมและยังสามารถกู้เงิน
ไปใช้จ่ายยามจำเป็นได้ จากการดูแลพนักงานของเราทำให้เราได้รับมาตรฐานแรงงานว่าด้วยความรับผิดชอบทางสังคม (SA 8000)
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับสังคมรอบข้างด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมที่เป็นประโยชน์ต่างๆ เช่น การสร้างงานในชุมชน
สร้างพิพิธภัณฑ์ของเล่น การปลูกป่าซึ่งจัดต่อเนื่องมา 14 ปี และกิจกรรมที่เรามีความภูมิใจมากคือ กิจกรรม Mom Made Toy นำคุณแม่
จำนวน 200 ท่าน มาทำกิจกรรมร่วมกับนักออกแบบ เพื่อช่วยกันคิด ออกแบบ และคัดเลือกของเล่นสำหรับเด็ก แล้วบริษัทจะผลิตแบบที่
ได้รับการคัดเลือกและแจกให้กับเด็กด้อยโอกาส 3 กลุ่มทั่วโลก ได้แก่ เด็กออทิสติก เด็กตาบอด และเด็กพิการซ้ำซ้อนทางสมอง
          สำหรับ 3 P คือ การบริหารให้เกิดความสมดุลกันระหว่างกำไรขององค์กร (Profit) คน (People) และสิ่งแวดล้อม (Planet)
อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

          ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุกิจ
          อุปสรรคภายใน ได้แก่ เรื่องบุคลากร และการบริหารต้นทุนที่ต้องสามารถแข่งขันได้ตลอดเวลา และการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ
เพื่อมาพัฒนาธุรกิจ ส่วนอุปสรรคภายนอก คือ การแข่งขันที่มีค่อนข้างสูง ประเทศคู่แข่งที่น่าจับตามองในขณะนี้คือ เวียดนาม ที่กำลังมาแรง
ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์และของเล่นเด็ก รวมทั้งความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก เพราะธุรกิจเราเน้นการส่งออกเป็นหลักถึง 95% ตลาด
ส่งออกหลักคือ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ยกตัวอย่างที่ผ่านมามีวิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น การแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากการเป็น
สมาชิกสหภาพยุโรป ที่เรียกว่า Brexit การเกิดเหตุระเบิดในเบลเยียม การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายปี 2559 ล้วน
แล้วแต่มีผลทำให้ยอดขายลดลง เพราะผู้บริโภคมองว่าของเล่นเด็กเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยจึงชะลอการซื้อสินค้าไว้ก่อน ปัญหาอีกประการหนึ่ง
คือ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัญหาภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้และส่งผลกระทบอย่างมาก รวมทั้งปัญหา
สภาพแวดล้อมของตลาดและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งในปัจจุบันตลาดออนไลน์เป็นตลาดที่เข้ามามีบทบาทกับหลายธุรกิจ
เราจึงต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสโลก

          การจัดการความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
          ในระยะแรกที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจส่งออกเราจะให้ผู้ซื้อในต่างประเทศชำระเงินสดก่อนส่งสินค้ากับลูกค้าทุกราย แต่ในปัจจุบันเราทำ
แบบนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ๆ เราจำเป็นต้องให้เครดิต แต่เราก็สบายใจและมั่นใจได้ว่าจะได้รับชำระเงินค่าสินค้าแน่นอนด้วย
บริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK
          สำหรับการบริหารความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน เราจะดูทิศทางค่าเงินและกำหนดราคาต้นทุนและราคาขายไว้เป็นรายปี รวมทั้ง
ทำ Forward Contract เพื่อจะได้ทราบอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอน เพื่อปิดความเสี่ยงในเรื่องนี้
          ส่วนความเสี่ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจัดจำหน่าย เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดจำหน่าย (Distributor) ในต่างประเทศ เช่น การ
ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลคู่ค้าในต่างประเทศจากแผนการขาย สินค้าคงเหลือ เป็นต้น
          นอกจากนี้ สินค้าของเรามีผู้บริโภคเป็นเด็กจึงมีความละเอียดอ่อนและความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องจากการบริโภคสินค้าแล้วได้รับ
อันตราย เราจึงมีการทำประกันความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) ของสหรัฐอเมริกาไว้อีกด้วย

          กุญแจสู่ความสำเร็จในวันนี้
          ผู้บริหารของบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบรนด์ “PlanToys” ให้เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นผลิตสินค้า
ที่มีคุณภาพและรูปแบบไม่เหมือนใคร ทำให้เราสามารถสร้างกำไรให้ธุรกิจได้ในระยะยาวและทำการตลาดได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการนำเสนอ
นวัตกรรมใหม่ๆ พัฒนาสินค้าให้มีจุดเด่น ปรับตัวตามเทรนด์ตลอดเวลา เช่น เราเป็นเจ้าแรกที่ทำของเล่นเด็กจากไม้ที่สามารถเล่นในน้ำได้
แตกต่างจากบางธุรกิจที่จะให้ความสำคัญกับจำนวนการผลิตและยอดขาย เห็นได้จากธุรกิจส่วนมากในไทยเน้นการผลิตภายใต้แบรนด์ลูกค้า
(Original Equipment Manufacturer : OEM) เพราะมีรายรับแน่นอนและรวดเร็วกว่า

          บริการของ EXIM BANK ช่วยธุรกิจของท่านอย่างไร
          ธุรกิจผมใช้บริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK มานานแล้ว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการค้าขายที่มีการให้ Credit Term และ
เมื่อปี 2559 EXIM BANK ได้ออกบริการ “สินเชื่อส่งออกทวีค่า” ซึ่งเป็นบริการที่ให้เงินทุนหมุนเวียนและมีการชดเชยความเสียหายจากการ
ไม่ได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อในต่างประเทศ มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษและเงื่อนไขที่ผ่อนปรน ทำให้เรากล้าตัดสินใจไปเปิดตลาดใหม่ใน
ต่างประเทศอย่างประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดที่มีความซับซ้อนและเราศึกษาตลาดอยู่ 4 ปีจนเราพร้อมและมั่นใจที่จะไปค้าขายด้วย โดยมี
EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเข้ามาสนับสนุน ทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น

          ฝากถึงผู้ประกอบการทั่วไป และผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นธุรกิจส่งออก-ลงทุน
          ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องศึกษาและทำความเข้าใจตลาดอย่างจริงจัง ต้องมั่นใจว่าสินค้าของคุณมีแบรนด์และมีจุดเด่นที่
แตกต่างจากคู่แข่ง อย่ากังวลเรื่องราคาว่า สินค้าราคาสูงจะขายไม่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องซื่อสัตย์ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค
          นอกจากนี้ จะต้องหาพันธมิตรการค้าที่ดี อย่ามองแต่ขนาดของธุรกิจของคู่ค้าว่าต้องเป็นรายใหญ่ แต่ควรหาคนที่คุยกันรู้เรื่อง มีแนวคิดการบริหารที่เหมือนกันมากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับ จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
          ที่สำคัญคือ ในการทำธุรกิจอย่าเล่นกับความเสี่ยงทางการค้า จะต้องหาทางปิดความเสี่ยง เพราะเราจะได้มีเวลาไปบริหารจัดการ
เรื่องอื่นๆ และต้องทำองค์กรให้กระทัดรัดเพื่อให้มีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงหรือปรับตัวได้ทันตามกระแสโลก