 |
 |
 |
 |
|
อินเดีย ประเทศที่มีจำนวนประชากรสูงเกือบ 1.4 พันล้านคน กำลังเผชิญผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ทั้งจากการแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อจนมีผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มหดตัวถึงร้อยละ 4.5 ตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สถานการณ์ของภาคธุรกิจในอินเดียจึงเป็นที่จับตามองทั้งจากผู้ประกอบการที่มีการส่งออกไปอินเดียหรือที่มีการลงทุนทำธุรกิจในอินเดีย ตลอดจนนักธุรกิจทั่วโลก เพราะอินเดียนับเป็นหนึ่งในประเทศใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุด Atradius องค์กรรับประกันเครดิตการค้าสำคัญของโลก จัดทำรายงาน Payment Practices Barometer ของประเทศสำคัญในเอเชีย รวมถึงอินเดีย โดยนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์การให้เครดิตการค้าและการชำระเงินของภาคธุรกิจในอินเดีย ซึ่งอาจใช้เป็นข้อมูลเพื่อจับสัญญาณถึงสถานะทางการเงินของคู่ค้าและวางมาตรการรับมือล่วงหน้า โดยเฉพาะภายใต้วิกฤต COVID-19 ที่คาดว่าจะส่งผลให้หลายธุรกิจเผชิญภาวะสภาพคล่องทางการเงินตึงตัว เนื่องจากเครดิตการค้าถือเป็นเครื่องมือในการบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่สำคัญของภาคธุรกิจ อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ แนวโน้มสำคัญของการให้เครดิตการค้าและการชำระเงินของอินเดีย มีดังนี้ |
|
|
 |
 |
 |
 |
 |
 |
|
เครดิตการค้า (Trade Credit) คือ การให้เครดิตระหว่างคู่ค้าที่มีการซื้อและขายสินค้ากัน โดยผู้ขายสินค้ายินยอมให้ผู้ซื้อรับสินค้าไปก่อนและชำระเงินค่าสินค้าภายหลังตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ หรือที่เราอาจคุ้นชินในการเรียกว่าการให้เทอมการชำระเงินในการซื้อขายสินค้า |
|
|
 |
|
 |
|
• ธุรกิจในอินเดียให้เครดิตการค้าแก่คู่ค้าลดลงเพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ โดยสัดส่วนมูลค่าการค้าของอินเดียที่มีการให้เครดิตการค้าในปี 2563 ปรับลดลงเหลือร้อยละ 50 เทียบกับร้อยละ 55 ในปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การลดความเสี่ยงของธุรกิจในอินเดียจากแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยเลือกที่จะค้าขายในเทอมเงินสดมากขึ้นสำหรับคู่ค้าที่ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ
• เทอมการชำระเงินของเครดิตการค้ามีระยะเวลายาวนานขึ้นสะท้อนถึงสภาพคล่องของธุรกิจในอินเดียที่ตึงตัว โดยเทอมการชำระเงินที่ให้กับคู่ค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 41 วันในปี 2563 ปรับขึ้นจาก 31 วันในปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเงินทุนหมุนเวียนที่มีมากขึ้น เนื่องจากการให้เครดิตการค้าเปรียบเสมือนการกู้ยืมระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง ดังนั้น การมีเทอมการชำระเงินที่ยาวขึ้นเท่ากับปริมาณเงินสดที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ การให้เทอมการชำระเงินที่ยาวขึ้นพร้อมกับการลดสินเชื่อการค้าที่ให้กับคู่ค้า แสดงให้เห็นถึงการเลือกเฉพาะคู่ค้าที่น่าเชื่อถือในการให้สินเชื่อการค้า ขณะเดียวกันก็ให้เทอมการชำระเงินที่ยาวขึ้นเพื่อประคองธุรกิจของคู่ค้าสำคัญที่อาจเผชิญภาวะสภาพคล่องตึงตัวในปัจจุบัน |
|
|
|
 |
|
Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น
โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด |
|
|
 |
|
|