ฟิลิปปินส์เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายในการลงทุนที่น่าสนใจไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งเฉลี่ย 5.9% ต่อปีในช่วงปี 2565-2569 ตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรสูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย รวมถึงแรงงานที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลฟิลิปปินส์ทยอยปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ โดยล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2564 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้บังคับใช้กฎหมาย Corporate Recovery and Tax Incentives for Enterprises Act (CREATE) ซึ่งเป็นการปฏิรูประบบภาษีครั้งสำคัญ ครอบคลุมทั้งการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีต่าง ๆ รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีรูปแบบใหม่แก่นักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะแบ่งตามพื้นที่และประเภทธุรกิจที่รัฐบาลให้การส่งเสริม ซึ่งกำหนดไว้ภายใต้แผน 2022 Strategic Investment Priority Plan (2022 SIPP) ที่บังคับใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 จึงนับเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจไปฟิลิปปินส์ในการทำความเข้าใจกับกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อที่จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 
  สิทธิประโยชน์ทางภาษีรูปแบบใหม่...การเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม  
             สิทธิประโยชน์ทางภาษีรูปแบบใหม่ภายใต้กฎหมาย CREATE จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนในฟิลิปปินส์ให้ดียิ่งขึ้นและจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการไทยที่สนใจไปลงทุนในฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมภายใต้แผน 2022 SIPP โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

ประเภทธุรกิจที่รัฐบาลให้การส่งเสริมภายใต้แผน 2022 SIPP
           แผน 2022 SIPP มีการจัดกลุ่มธุรกิจในรูปแบบใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามลำดับความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศและมีการเพิ่มสาขาธุรกิจที่กำลังอยู่ในกระแสโลก ดังนี้
 
  ธุรกิจเดิมที่กำหนดอยู่ในแผนส่งเสริมการลงทุนฉบับก่อนหน้า (2020 Investment Priority Plan) โดยครอบคลุมธุรกิจที่เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานและเร่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศ อาทิ ก่อสร้าง ขนส่ง ภาคการผลิต ท่องเที่ยว การเกษตร และโทรคมนาคม  
  ธุรกิจที่มีศักยภาพในการขยายห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) เพื่อให้การเชื่อมโยงของภาคการผลิตและบริการแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสีเขียว บริการด้านสุขภาพ และความมั่นคงทางด้านอาหาร อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน โรงพยาบาลเฉพาะทาง และอาหารแปรรูป  
  ธุรกิจที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ผ่านการวิจัยและพัฒนา (R&D) การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ AI, Cloud Computing, Internet of Things และ Biotechnology  
  สิทธิประโยชน์ทางภาษีรูปแบบใหม่ภายใต้กฎหมาย CREATE
           กฎหมาย CREATE กำหนดให้ทุกหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน (Investment Promotion Agencies : IPA) ในฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 19 แห่ง อาทิ Board of Investments (BOI), Philippine Economic Zone Authority (PEZA) และ Subic Bay Metropolitan Authority (SBMA) ต้องให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่โครงการลงทุนภายใต้เงื่อนไขเดียวกันเพื่อความโปร่งใส จากเดิมที่ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างกันไปตามหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนที่ได้ทำการจดทะเบียนไว้ ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สำคัญภายใต้กฎหมาย CREATE คือ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
 
            ทั้งนี้ กฎหมาย CREATE ได้ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ที่เพิ่งฟื้นตัวจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและ
พื้นที่ที่เผชิญเหตุการณ์ความไม่สงบจากการสู้รบ โดยจะขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มให้อีก 2 ปี ขณะที่นักลงทุน
ที่เข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์ก่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวและมีการย้ายสถานประกอบการทั้งหมดออกจากเขตนครหลวงมะนิลา จะได้รับสิทธิ์ขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มอีก 3 ปี หลังดำเนินการย้ายเสร็จสมบูรณ์

          นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ ที่นักลงทุนจะได้รับ เช่น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้านำเข้าและการกำหนด VAT ในอัตรา 0% สำหรับการซื้อสินค้า/บริการภายในประเทศเพื่อใช้ในโครงการลงทุนหรือกิจกรรมที่จดทะเบียนไว้ รวมถึงการยกเว้นภาษีนำเข้า (Custom Duty) สำหรับการนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ทุน วัตถุดิบ และชิ้นส่วนอะไหล่ที่ใช้ในโครงการลงทุนหรือกิจกรรมที่จดทะเบียนไว้เท่านั้น
 
  กฎหมาย CREATE และแผน 2022 SIPP ส่งผลดีต่อการลงทุนและเศรษฐกิจฟิลิปปินส์  
            การปรับปรุงทั้งด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและสาขาธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจะส่งผลดีต่อการลงทุนและเศรษฐกิจของ
ฟิลิปปินส์ ดังนี้

          FDI มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นและจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ โดยการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้จูงใจมากขึ้น พร้อมกับการทยอยผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่เพิ่งเปิดเสรีไปเมื่อเดือนมกราคม 2565 จะช่วยดึงดูด FDI ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการสร้างงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คาดว่า FDI ในฟิลิปปินส์จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 11.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 จาก 8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562

          เพิ่มโอกาสดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น โดยกฎหมาย CREATE มีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เพิ่มขึ้นแก่นักลงทุนที่ลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กระแสการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพที่สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงธุรกิจที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะข้างหน้า

          สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของฟิลิปปินส์ โดยฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญด้าน
สิ่งแวดล้อมตามที่ได้ประกาศเจตนารมณ์สู่เส้นทางสีเขียวด้วยการตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 75% ภายในปี 2573 ภายใต้
ความตกลงปารีส ซึ่งการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจสีเขียวคาดว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ฟิลิปปินส์บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ตามที่วางไว้
 
            จะเห็นได้ว่าการเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนด้วยการสร้างแรงจูงใจทางภาษีที่โปร่งใสและชัดเจน รวมถึงการสนับสนุนโครงการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาลฟิลิปปินส์ จึงนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่พร้อมเข้าไปปักหมุดธุรกิจในฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรศึกษาและทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกฎหมายฉบับใหม่ได้อย่างเต็มที่และวางแผนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต  
  Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น
โดย EXIM BANK จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
 
  ที่มาของรูปภาพ : Hight Quality Icons, Freepik from www.flaticon.com  
  หน้าหลัก  I  Share โลกเศรษฐกิจ  I  Data Digest  I  ส่องเทรนด์โลก  I  เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ
CEO Talk  I  แนะนำบริการ  I  สรุปข่าว