นอกจากนี้ สถานีกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งอิตาลี หรือ RAI จะใช้การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2020 ในการเริ่มแพร่ภาพ
โทรทัศน์ระดับความละเอียด 8K เป็นสถานีโทรทัศน์แรกในสหภาพยุโรปด้วยเช่นกัน
ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (ยานยนต์ไร้คนขับ) บริษัทญี่ปุ่นจะนำยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหลากหลายประเภท
มาให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 อาทิ รถบัสขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ ระดับที่ 3 (ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ที่ยังต้องใช้มนุษย์ควบคุมในสถานการณ์ฉุกเฉิน) ซึ่งสายการบิน All Nippon Airways (ANA) จะนำมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารภายใน
สนามบิน รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ ระดับที่ 4 (ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบตามเส้นทางที่กำหนดไว้) ซึ่ง Toyota
จะนำมาให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับรับส่งผู้โดยสารระหว่างสนามแข่งขันกีฬา ขณะที่บริการแท็กซี่ไร้คนขับระหว่างสนามบินกับสนามแข่งขัน
กีฬาของ Hinomaru Kotsu หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการแท็กซี่ในกรุงโตเกียว จะใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ได้รับ
การพัฒนาจากเทคโนโลยีเลเซอร์ และกล้องถ่ายรูป 3 มิติ (Stereo Camera) ของ ZMP บริษัทผู้พัฒนาหุ่นยนต์ของญี่ปุ่น ทำให้ในช่วง
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะมีแท็กซี่ไร้คนขับให้บริการผู้โดยสารในกรุงโตเกียวรวมกว่า 100 คัน แม้ทุกคันจะยังมีคนขับนั่งประจำที่เพื่อ
คอยควบคุมรถในสถานการณ์ฉุกเฉินก็ตาม นอกจากนี้ยังมี e-Palette ยานยนต์อเนกประสงค์ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ ระดับที่ 4
ที่จะใช้ระบบควบคุมความปลอดภัยจากภายนอก (คนขับไม่ต้องนั่งประจำที่ภายในรถ) จำนวน 20 คัน ที่ Toyota จะนำมาให้บริการรับส่ง
นักกีฬาและเจ้าหน้าที่เฉพาะบริเวณหมู่บ้านนักกีฬาเท่านั้น
ทั้งนี้ แม้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะจบลง แต่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นหลายรายจะนำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมาทดสอบวิ่ง
บนถนนสาธารณะในกรุงโตเกียวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะวางจำหน่ายรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 5
(ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ) ในท้องตลาดให้ได้ภายในปี 2568 โดยคาดกันว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะได้รับความนิยมมาก
ในประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน เช่นเดียวกับญี่ปุ่น
นอกเหนือจากการแพร่ภาพโทรทัศน์ระดับความละเอียด 8K และยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย
อื่นๆ ที่จะนำมาใช้สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 เช่น 3D Athlete Tracking Technology (3DAT) เทคโนโลยีประมวลผลการเคลื่อนไหวของนักกีฬาด้วย AI ที่สามารถแสดงผลเป็นภาพซ้อนทับกับการแพร่ภาพสดที่ Intel พัฒนาขึ้น
Cloud Broadcasting ซึ่ง Alibaba Cloud ร่วมกับหน่วยบริการกระจายเสียงแพร่ภาพโอลิมปิก (OBS) นำสัญญาณการแพร่ภาพโทรทัศน์
ไปไว้บนระบบคลาวด์ ทำให้การแพร่ภาพโทรทัศน์ข้ามประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น Facial Recognition System ที่ NEC ร่วมพัฒนา
กับ Intel จนสามารถประมวลผลใบหน้าได้ใน 0.3 วินาที โดยจะถูกนำไปใช้ในการรักษาความปลอดภัยบริเวณสนามแข่งขันกีฬา Robot
Volunteer หลากหลายชนิด ซึ่งจะนำมาใช้นำทางที่นั่ง รวมถึงรับคำสั่งซื้อและจัดส่งเครื่องดื่มและของว่างให้แก่ผู้เข้าชมการแข่งขัน ฯลฯ
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 เปรียบเสมือนโชว์รูมของสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนาคตที่เปิดให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน
ที่ประเทศญี่ปุ่นและผู้ชมจากทุกมุมโลกได้สัมผัสและมีประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งหมายถึงโอกาสอันมหาศาลในโลกของธุรกิจ โดยเฉพาะ
ในสินค้าและบริการที่ได้การตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการจึงควรติดตามกระแสต่างๆ ของมหกรรมการแข่งขันกีฬาครั้งนี้
อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมธุรกิจให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน รวมถึงนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปประยุกต์ให้เป็นประโยชน์แก่
ธุรกิจต่อไป |