|
|
|
EXIM BANK ปักธงปล่อยสินเชื่อสร้างเศรษฐกิจ BCG 100,000 ลบ. ภายใน 5 ปี
พร้อมรับความเสี่ยง ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่ หนุนทุนไทยไปต่างแดน
เปลี่ยนไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูง พัฒนาสู่ความยั่งยืน |
|
|
|
|
|
|
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนำชมนิทรรศการ “การเดินทางของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย...BCG Journey” ของ EXIM BANK จากนั้น นำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพจากสมุนไพร โดยเภสัชกรหญิงวันทณีย์ เสนาคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเวนเชอร์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ผู้ผลิตแผ่นสติกเกอร์กันยุงและแผ่นสติกเกอร์หัวหอมบรรเทาหวัดจากสารธรรมชาติและจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจาก EXIM BANK ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเร็ว ๆ นี้
ในโอกาสนี้ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK รายงานว่า จากแนวนโยบายรัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินหน้ายุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง รองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของโลก EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ได้เข้ามาเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลในการสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจัดตั้ง EXIM BANK เพื่อประกอบธุรกิจอันเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า และการลงทุน เพื่อการพัฒนาประเทศ นับแต่เปิดดำเนินการในปี 2537 โดยต่อมาในปี 2542 ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ให้ EXIM BANK สามารถสนับสนุนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศได้กว้างขวางมากขึ้น และในปี 2561 ได้มีการขยายขอบเขตการให้บริการประกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทย ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถเข้าไปรับงานหรือขยายฐานการค้าการลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น ตลอดระยะเวลากว่า 28 ปีที่ผ่านมา EXIM BANK จึงได้ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างความยั่งยืนของโลกภายใต้กรอบแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก แม้ในสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ ของประเทศคู่ค้า และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในโลกการค้ายุคใหม่
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูธุรกิจไทย โดยทำหน้าที่ “เครื่องยนต์รุ่นใหม่” ผลักดันการพัฒนาประเทศไทยในมิติเศรษฐกิจ เชื่อมโยงกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยนโยบาย Dual-track Policy ชูบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” ควบคู่กับการเป็น “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs” EXIM BANK พร้อม “รับความเสี่ยง” มากกว่าธนาคารพาณิชย์ “ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่” โดยสนับสนุนโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมสู่อนาคต และ “หนุนทุนไทยไปต่างแดน” ทั้งด้านการค้าและลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนดำเนินภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอด Supply Chain
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ที่ผ่านมา EXIM BANK ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ธุรกิจ BCG ไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคารหรือประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนสินเชื่อโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 3.7 แสนล้านบาท ลดการปล่อยคาร์บอนในอากาศมากกว่า 100 ล้านตัน EXIM BANK ตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจ BCG เป็น 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 เพื่อร่วมกับประชาคมโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ โดยประเทศไทยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2608 นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้ Smart Farmers มีการเพาะปลูกแบบ Organic และพัฒนาระบบ Zero Waste สามารถนำกากของเสียจากโรงงานกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต เพื่อหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และผันตัวเป็นผู้ส่งออกได้ในที่สุด
“การเดินทางของ EXIM BANK ในบทบาท ‘ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย’ นับแต่อดีตมุ่งเน้นลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เราเริ่มต้นจากการสร้างผู้ส่งออก นักลงทุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ ไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียนด้วยกัน รวมทั้งการขยายโอกาสของธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ (New Frontiers) ภายใต้โมเดลที่วันนี้เรียกว่า BCG ทำให้เกิดไฟฟ้า ประปา พลังงานหมุนเวียนรองรับความต้องการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนและป้อนภาคอุตสาหกรรมในประเทศต่าง ๆ สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและประชาคมโลกโดยรวม” ดร.รักษ์ กล่าว |
|
|
|
|
|
EXIM BANK เตรียมออก Green Bond สนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด
สร้างอุตสาหกรรมใหม่มุ่งสู่อนาคตและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ |
|
|
|
|
|
|
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี พร้อมนำชมนิทรรศการ “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย สร้างโลกสะอาดด้วยพลังงานที่ยั่งยืน” ของ EXIM BANK จากนั้น นำเสนอแนวทางการดำเนินงานของบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (AMITA) ในเครือบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ลูกค้า EXIM BANK ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจรใหญ่ที่สุดในอาเซียน กำลังการผลิตขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA และกรรมการ AMITA ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเร็ว ๆ นี้
ในโอกาสนี้ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK รายงานว่า พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับครัวเรือนจนถึงภาคธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ เนื่องจากเป็นต้นทุนและเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน รัฐบาลจึงมุ่งเน้นสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) รวมทั้งสนับสนุนการผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้า มุ่งให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและปล่อยก๊าซคาร์บอน
ไดออกไซด์เป็นศูนย์ตามเป้าหมายของประชาคมโลก EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย จึงได้ดำเนินภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเปลี่ยนแรงกดดันของปัญหาและมาตรฐานใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นโอกาสทางธุรกิจ มุ่งสนับสนุนให้ภาคธุรกิจไทย รวมถึง SMEs หันมาพัฒนาและใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น กล่าวคือ ใช้พลังงานจากแหล่งที่สามารถผลิตหรือก่อกำเนิดพลังงานได้เองและหมุนเวียนกลับมาใช้ได้อีก เป็นพลังงานสะอาด ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานชีวมวล พลังงานชีวภาพ เป็นต้น
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า การสนับสนุนโครงการลงทุนด้านพลังงานสะอาดของ EXIM BANK มีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในระยะยาว ทั้งด้านต้นทุนการผลิต การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิต การตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก โดยสอดคล้องกับกฎ ระเบียบ และมาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในระหว่างปรับตัวไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต EXIM BANK จึงเร่งขยายความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนลูกค้าที่มีศักยภาพ เพื่อร่วมกันสร้างเศรษฐกิจ BCG ที่สอดรับการพัฒนาทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเมกะเทรนด์ในโลกยุค Next Normal โดย EXIM BANK มีโครงการระดมทุนผ่าน Green Bond เพื่อสนับสนุนธุรกิจสีเขียวหรือธุรกิจที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อายุ 3-5 ปี ทั้งนี้ EXIM BANK อยู่ระหว่างจัดตั้งกรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing Framework) รวมทั้งกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับ Green Bond ที่จะออกในช่วงเดือนกันยายน 2565
นับแต่เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537 EXIM BANK ได้ขยายการสนับสนุนการค้าและการลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ โดยเริ่มต้นสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาดจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ต่อมาได้ขยายการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาการใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ เศษวัสดุการเกษตร ขยะเหลือทิ้ง ความร้อนใต้พิภพ และลม มาสร้างพลังงาน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและเมียนมา โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม โดย EXIM BANK มีความพร้อมในการเข้าไปเติมเต็มช่องว่างทางการเงิน โดยเฉพาะในระยะแรกของโครงการที่ธนาคารพาณิชย์ยังไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ นอกจากนี้ EXIM BANK ยังเป็นผู้ริเริ่มพัฒนา Ecosystem ตลาดคาร์บอน ด้วยสินเชื่อเพื่อลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา (Solar Orchestra) วงเงินกู้ 7 ปี ให้กู้ 100% ของเงินลงทุนเพื่อชำระผู้รับเหมาเมื่อติดตั้งเสร็จ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ต่อปี พร้อมสิทธิขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิต และสิทธิยกเว้นภาษี 50% ของเงินลงทุนเป็นเวลา 3 ปีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อช่วยกิจการประหยัดค่าไฟและแก้ปัญหาโลกร้อน โดยมี EXIM BANK ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ขายและหน่วยงานกำกับดูแลเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร พร้อมทั้งร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งและกรรมการสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (RE100 Thailand Club) เครือข่าย Thailand Carbon Neutral Network และ Carbon Markets Club
“นับเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ EXIM BANK ได้ดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย เชื่อมโยงการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนโครงการลงทุนด้านพลังงานสะอาดจำนวนรวม 254 โครงการในไทย CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และญี่ปุ่น มูลค่าโครงการลงทุนรวม 370,000 ล้านบาท ลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 100 ล้านตัน ทั้งนี้ เป็นผลจากความพร้อมของ EXIM BANK ในการรับความเสี่ยงมากกว่าธนาคารพาณิชย์ ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่ และสนับสนุนทุนไทยไปต่างแดน เพื่อซ่อม สร้าง เสริม และสานพลังการพัฒนาประเทศไทยและประชาคมโลกโดยรวม” ดร.รักษ์กล่าว |
|
|
|
|
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบนโยบาย EXIM BANK ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน
ช่วยธุรกิจไทยก้าวผ่านวิกฤต พร้อมสร้างผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยที่แข่งขันได้ในตลาดโลก |
|
|
|
|
|
|
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการ EXIM BANK นำโดย ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK พร้อมด้วยกรรมการและผู้บริหารธนาคาร ในโอกาสเดินทางเยี่ยมชมกิจการลูกค้า EXIM BANK ซึ่งดำเนินธุรกิจที่เสริมสร้างระบบเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ณ โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ชลบุรี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า EXIM BANK ดำเนินภารกิจได้ดีอยู่แล้ว และควรต้องขยายบทบาทมากขึ้น โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเริ่มต้นส่งออกและขยายการลงทุนไปต่างประเทศ โดยสอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริม ควบคู่กับการดำเนินภารกิจช่วยเหลือและเยียวยาธุรกิจที่ประสบปัญหา เพื่อเสริมกำลังกับภาครัฐในการประคับประคองภาคธุรกิจให้กลับมาแข็งแกร่งและขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมไทย ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและประชาคมโลกโดยรวม ขณะเดียวกัน EXIM BANK สามารถเสริมการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเวทีการประชุมหรือเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มีภารกิจด้านต่างประเทศโดยตรง โดยเฉพาะในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC)
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า แนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสอดคล้องกับทิศทางของ EXIM BANK ที่มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย โดยจะทำหน้าที่เสมือนการ “กลืนยาพิษ” เพื่อรับความเสี่ยงที่มากกว่าธนาคารพาณิชย์ จึงพร้อมเข้าไปสนับสนุนกิจการที่มีความเสี่ยงในระยะต้น ก่อนจะส่งต่อให้ธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไป “กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่” โดยเข้าไปสนับสนุนโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมสู่อนาคต และ “หนุนทุนไทยไปต่างแดน” ทั้งด้านการค้าและลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งนี้ EXIM BANK จะทำหน้าที่ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และดำเนินงานด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยการให้ความรู้คู่เงินทุนแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmers) เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนและสร้างผู้ส่งออกตั้งแต่ต้นน้ำ โดย EXIM BANK ได้จับมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่ให้สามารถยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรและส่งออกได้ อันเป็นที่มาของรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ปี 2563-2564 ที่ได้รับร่วมกันจากความสำเร็จในการผลักดันผู้ส่งออก SMEs ภาคเกษตรเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 ราย มูลค่าส่งออกกว่า 1,040 ล้านบาทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
• “ซ่อม” อุตสาหกรรมที่ประสบปัญหา อาทิ สายการบิน พาณิชยนาวี เพื่อให้ภาคธุรกิจโลจิสติกส์กลับมาสร้างระบบนิเวศที่กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
• “สร้าง” อุตสาหกรรมใหม่เพื่อพัฒนาประเทศ EXIM BANK มีสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการ พัฒนาประเทศ (Development Portfolio) คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของสินเชื่อรวม แบ่งเป็น
- เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจพลังงานทดแทนไปแล้วเกือบ 200 โครงการ คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของสินเชื่อรวม มูลค่าลงทุนรวมกว่า 3.7 แสนล้านบาท ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมกับประชาคมโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593
- อุตสาหกรรมสู่อนาคต รวมถึงอุตสาหกรรม S-Curve เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสีเขียว ดิจิทัล และสุขภาพ (Green, Digital, Health : GDH) ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบโครงข่าย อุปกรณ์ทันตกรรมทดแทน และอาหารในกลุ่มเนื้อสัตว์ที่ใช้วัตถุดิบจากพืช
- โครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
• “เสริม” อาวุธ SMEs สร้างนักรบทางเศรษฐกิจสู่เวทีโลก โดยให้คำปรึกษาแนะนำ บ่มเพาะ สินเชื่อ และบริการอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำ โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmers) ผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก และ Indirect Exporters สามารถผันตัวเป็นผู้ส่งออกได้ โดยการส่งเสริมให้เข้าไปอยู่ใน Supply Chain ของผู้ส่งออก หรือแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ อาทิ EXIM Thailand Pavilion บน Alibaba.com ทั้งนี้ EXIM BANK มี SMEs Export Studio ดูแลตั้งแต่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การเขียนเรื่องราวธุรกิจ การทำตลาดให้แก่ SMEs ที่พร้อมเริ่มต้นธุรกิจส่งออก
• “สานพลัง” EXIM BANK ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอื่น ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจไทยและสร้างประโยชน์สูงสุดแก่เศรษฐกิจไทย ทั้งในกรอบของการดำเนินธุรกิจ กิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้ทีมประเทศไทยเดียวกัน
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการ EXIM BANK นำโดย ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้เยี่ยมชมกิจการลูกค้า EXIM BANK ซึ่งดำเนินธุรกิจที่เสริมสร้าง BCG Economy 3 แห่ง ได้แก่
บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (AMITA) ในเครือบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร กำลังการผลิตขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อนำไปใช้เพิ่มเสถียรภาพของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพในระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของประเทศ โดยลดมลพิษและภาวะโลกร้อน รวมทั้งป้อนให้กับอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ซึ่งเป็นอุตสาหกรรม New S-Curve ตามยุทธศาสตร์ของประเทศในการพัฒนา EEC โดยมีนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA และกรรมการ AMITA และนายชาญยุทธ ฉายาวัฒนะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่าย R&D AMITA ให้การต้อนรับ ณ นิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565
บริษัท วันเวนเชอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นสติกเกอร์กันยุงรายแรกของไทย ยี่ห้อ “Bug Guard” โดยผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% และต่อยอดมาเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสติกเกอร์หัวหอมบรรเทาหวัด คัดจมูก รายแรกของโลกที่ใช้สารจากธรรมชาติ 100% ยี่ห้อ “Happy Noz” ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้เป็นภูมิแพ้ และผู้สูงอายุ มียอดขายอันดับ 1 ในไทยและส่งออกในสัดส่วน 10% ไปยัง 18 ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะตะวันออกกลาง โดยมีเภสัชกรหญิงวันทณีย์ เสนาคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเวนเชอร์ จำกัด ให้การต้อนรับ ณ ที่ทำการบริษัท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565
บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (TEGH) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรแปรรูป ยางพาราและปาล์มน้ำมันรายใหญ่
ในภาคตะวันออก และผู้ผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ โดยมีการดำเนินธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตรเชิงนิเวศแบบ
ครบวงจร มุ่งเน้นระบบ BCG Economy และ Zero Waste Zero Discharge สามารถนำกากของเสียจากโรงงานกลับเข้าสู่กระบวนการ
ผลิต เป็นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด คณะได้เข้าเยี่ยมชมกิจการบริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัดผู้ผลิตและจำหน่าย
ยางแท่ง ซึ่ง EXIM BANK มีความร่วมมือกับบริษัทในการสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางที่ป้อนวัตถุดิบให้โรงงานใช้วิธีการเพาะปลูก
ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมถูกต้องตามหลักสากล FSC (Forest Stewardship Council)และโอกาสนี้ได้ร่วม
ทำกิจกรรม CSR ปลูกต้นยางนา ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจที่สามารถช่วยต่อยอดรายได้ของชุมชนท้องถิ่น โดยมีนายสมชาย โกกนุทาภรณ์
ประธานผู้ก่อตั้ง TEGH นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ กรรมการ TEGH และนางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ TEGH ให้การ
ต้อนรับ ณ เขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565
“EXIM BANK พร้อมซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง พัฒนาประเทศไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนเชื่อมั่น เชื่อมือ เชื่อถือ เชื่อใจในธนาคารของรัฐแห่งนี้ ซึ่งตั้งเป้าหมายเป็นที่หนึ่งทัดเทียมธนาคารเพื่อการพัฒนาชั้นนำระดับโลก ที่พึ่งภาครัฐ และที่รักประชาชนให้ได้โดยแท้จริง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยเราจะเดินเกมเปลี่ยนประเทศไทย ทำให้ความหวังประเทศไทยที่จะก้าวขึ้นเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียเมื่อราว 30 ปีก่อนกลับคืนมา ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศดาวรุ่งเนื้อหอม เป็นประเทศที่มีรายได้สูงให้ได้ ด้วยสินค้านวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างโลกสีเขียว และต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้ระบบเศรษฐกิจ BCG” ดร.รักษ์ กล่าว |
|
|
|
|
|
EXIM BANK ร่วมรับฟังการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ
“Thailand : Time to Change ได้เวลาเปลี่ยนประเทศไทย” |
|
|
|
|
|
|
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Thailand : Time to Change ได้เวลาเปลี่ยนประเทศไทย” โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมฟังแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนประเทศไทย ทั้งจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐและการทำงานของภาคเอกชนที่จะทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ในงาน Exclusive Luncheon Talk จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
EXIM BANK ร่วมงานเสวนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและการส่งออก ปี 2565 |
|
|
|
|
|
|
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “นโยบายการเงินการคลังกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2565” โดยมี ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) นางธิดา พัทธธรรม รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายพิเศษ ฤทธาภิรมย์ ประธานสมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพฯ และนายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมฟังปาฐกถาพิเศษและเป็นวิทยากรเสวนาหัวข้อ “ฉากทัศน์การค้าโลกที่เปลี่ยนไปกับการส่งออกไทยที่ต้องเปลี่ยนแปลง” ให้แก่ผู้บริหารและสมาชิก สรท. ในการประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 27 สรท. เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ทั้งนี้ EXIM BANK เดินหน้าสู่บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ดำเนินภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” สนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลกและพร้อมรับมือกับโลกยุคใหม่ด้วยการปรับองค์กร เปลี่ยนแผนธุรกิจ เปิดช่องทางการค้าใหม่ และป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ |
|
|
|
|
|
EXIM BANK สนับสนุนสินเชื่อ 50 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องสายการบินไทยสมายล์
รักษาการจ้างงาน ฟื้นอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวไทย |
|
|
|
|
|
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ในรูปแบบวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนโครงสร้างพิเศษเพื่อรักษาการจ้างงาน (Structured Revolving Payroll Financing) จำนวน 50 ล้านบาท ให้สายการบินไทยสมายล์นำไปใช้เสริมสภาพคล่องเพื่อรักษาการจ้างงาน ฟื้นธุรกิจการบินให้พร้อมรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินให้แก่สายการบินไทยสมายล์ในครั้งนี้เพื่อเป็น
ส่วนหนึ่งของการเสริมสภาพคล่องสำหรับค่าใช้จ่ายพนักงานและรักษาการจ้างงานให้มากที่สุด ประกอบกับช่วยฟื้นฟูธุรกิจสายการบิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของการท่องเที่ยว ให้กลับมาดำเนินกิจการได้เต็มรูปแบบโดยเร็ว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนท้องถิ่นและ
ประเทศไทยโดยรวม ทั้งนี้ ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า
40 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 1.93 ล้านล้านบาท จนกระทั่งการแพร่ระบาด COVID-19 ส่งผลให้ธุรกิจสายการบินได้รับผลกระทบ
ทางตรงจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงมาก และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคการจ้างงาน โดยธุรกิจสายการบินมีการจ้างงานรวมกว่า
40,000 คน
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย มุ่งทำหน้าที่
“ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ดังนั้น การซ่อมธุรกิจสายการบินซึ่งประสบวิกฤตในช่วงเวลาที่ผ่านมา
อันเป็นผลจากการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้ธุรกิจสายการบินหลายแห่งต้องหยุดบินในบางช่วงเวลาเพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน
การแพร่ระบาด COVID-19 จนถึงปัจจุบันประชาชนเริ่มปรับตัวและมีภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังจะกลับมาเป็น
หนึ่งในเครื่องยนต์หลักที่ช่วยฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย EXIM BANK จึงพร้อมเติมเงินทุนให้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการช่วยพัก
ชำระหนี้และปรับตารางการผ่อนชำระให้สอดคล้องกับสถานการณ์และแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
ในช่วงที่ผ่านมา
“EXIM BANK ให้ความช่วยเหลือทั้งธุรกิจการบินและที่เกี่ยวเนื่อง ให้สามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งครอบคลุม Supply Chain ของธุรกิจสายการบิน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างสังคมที่แข็งแรงให้เติบโตไปด้วยกันกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยซ่อมแซมจุดอ่อน สร้างจุดแข็ง เสริมศักยภาพ และสานพลังการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามภารกิจของ EXIM BANK” ดร.รักษ์ กล่าว |
|
|
|
|
|
EXIM BANK เตือนผู้ส่งออกรับมือความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
จากผลกระทบความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน |
|
|
|
|
|
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่รัสเซียพยายามรุกคืบเข้าถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทำให้นานาชาติ โดยเฉพาะประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organisation : NATO) และชาติตะวันตก ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจถึงขั้นจะถูกโดดเดี่ยวจากระบบการเงินโลก โดยประกาศตัดรัสเซียออกจากระบบสวิฟต์ (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication : SWIFT) ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อความทางการเงินที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูงที่สถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่งใช้บริการและครอบคลุมการใช้งานในกว่า 200 ประเทศ กระทบต่อการใช้บริการ SWIFT ของสถาบันการเงินและบริษัทในรัสเซียจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 300 แห่ง ส่งผลให้บริษัทเอกชนของรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินได้อย่างราบรื่น
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ไทยอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ในปัจจุบันเท่าไรนัก เนื่องจากไทยส่งออกไปรัสเซียและยูเครนเพียง 0.4% และ 0.05% ของมูลค่าส่งออกรวม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปรัสเซียและยูเครน ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเม็ดพลาสติก อย่างไรก็ตาม ในทางอ้อม ผู้ส่งออกไทยอาจประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเนื่องจากรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านพลังงานของโลก โดยเฉพาะการเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และสินแร่ต่าง ๆ ถูกมาตรการลงโทษ ทำให้ส่งออกสินค้าดังกล่าวยากลำบาก เช่นเดียวกับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก เมื่อเกิดปัญหาความตึงเครียดส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน และวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตและต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้นตาม ซึ่งในที่สุดอาจกระทบต่อกำไรของผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ผู้ส่งออกไทยควรต้องบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและการขนส่ง เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งล่าสุดเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงถึงราว 30% จากต้นปี 2565 ผู้ประกอบการไทยจึงควรบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าว รวมถึงการปรับวิธีการชำระเงินค่าสินค้า เป็นต้น โดย EXIM BANK มีบริการให้คำปรึกษาแนะนำเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่เหมาะสมให้แก่ผู้ส่งออก
“EXIM BANK ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ค้าขายและลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งในตลาดรัสเซีย ยูเครน และทวีปยุโรปโดยรวม ซึ่งไทยส่งออกไปยุโรปคิดเป็น 10% ของมูลค่าการส่งออกรวม แม้ว่าปัจจุบันผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจส่งผลต่อภาพรวมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด เนื่องจากนักท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้อาจชะลอการเดินทาง เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยและการส่งออก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ยังเกิดขึ้นในปีนี้” ดร.รักษ์ กล่าว |
|
|
|
|
|
EXIM BANK เปิดตัวโครงการที่ปรึกษาสุขภาพใจพนักงาน |
|
|
|
|
|
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ต้อนรับนางสาวนภาพร ไตรวิทย์วารีกุล หรือ “ดีเจพี่อ้อย” ผู้ดำเนินรายการวิทยุและโทรทัศน์ และนางสาวพิชาวีร์ เมฆขยาย ผู้ก่อตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและครอบครัว iSTRONG วิทยากรในงานเปิดตัวโครงการ “ที่ปรึกษาสุขภาพใจ (Mental Health Program)” ให้แก่พนักงาน EXIM BANK ภายใต้แนวคิด “ใช้ชีวิต ผ่อนคลาย และเรียนรู้ (Live, Relief & Learn)” เพื่อรับฟังและให้คำปรึกษาแก่พนักงานในการปรับตัวและรับมือกับความเครียด พร้อมข้อคิดในการเสริมสร้างพลังการทำงานร่วมกัน สร้างองค์กรให้เป็น Empathic Workplace ที่ดูแลเอาใจใส่ เคารพความแตกต่าง รวมถึงสนับสนุนสวัสดิการที่เท่าเทียมแก่ทุกเพศ วัย รวมถึงเพศทางเลือก ด้วยความเชื่อมั่นว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดและความหลากหลายในสังคมเป็นความสวยงาม การดูแลพนักงานให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจะนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรและประเทศชาติ โดยมีผู้บริหารและพนักงานเข้าร่วมงาน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ ควบคู่กับการประชุมทางออนไลน์กับพนักงานสำนักงานใหญ่ สาขา และสำนักงานผู้แทนในต่างประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
EXIM BANK ร่วมใจสู้ภัย COVID |
|
|
|
|
|
EXIM BANK สนับสนุนน้ำดื่มและอาหารแห้งช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19
ในศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตพญาไท และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตลาดพร้าว |
|
|
|
|
|
|
นางวันเพ็ญ อรรชุนเดชะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบน้ำดื่มและอาหารแห้ง เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่แยกออกจากที่พักอาศัยและเข้าพัก ภายใต้โครงการ CSR “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ณ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation) สำนักงานเขตพญาไท กรุงเทพ
มหานคร โดยมีนายคมกริช คุ้มมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพญาไท เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานเขต
พญาไท และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation) สำนักงานเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสุภาพร ศรีศาสนวงศ์ ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว เป็นผู้รับมอบ ณ อาคารบริษัท อาร์ บี เอส
โลจิสติกส์ จำกัด เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
|
EXIM BANK สนับสนุนกิจกรรมป้องกันควบคุมโรค
มูลนิธิส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร |
|
|
|
|
|
|
นางวันเพ็ญ อรรชุนเดชะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมป้องกันควบคุมโรคระบาด โดยเฉพาะ COVID-19 ให้แก่มูลนิธิส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ภายใต้โครงการ CSR “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” โดยมีแพทย์หญิงป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย เป็นผู้รับมอบ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
|
EXIM BANK จับมือการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและ 4 สถาบันการเงิน
สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม |
|
|
|
|
|
|
นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้บริหารจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมสนับสนุนมาตรการทางการเงินเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน การดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนสินเชื่อ Solar Orchestra ให้แก่ธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าโครงการลงทุน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี ผู้กู้จะได้รับสิทธิการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจรและสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี 50% ของเงินลงทุนเป็นระยะเวลา 3 ปีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ช่วยภาคธุรกิจลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสามารถปรับตัวรับมือกับมาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อม ก้าวทันกระแสเศรษฐกิจสีเขียวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
EXIM BANK รับรางวัล “บูทสวยงามยอดเยี่ยม” ในงาน Money Expo 2021 |
|
|
|
|
|
|
นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK รับมอบรางวัล “บูทสวยงามยอดเยี่ยม (Best Design Excellence Award)” ประเภทพื้นที่ขนาด 108-120 ตร.ม. ในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 21 (MONEY EXPO 2021) ประจำปี 2564 จาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และประธานการจัดงานมหกรรมการเงิน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ EXIM BANK ออกบูทให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเริ่มต้นส่งออกในรูปแบบ “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs (One Stop Trading Facilitator for SMEs)” สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงาน “ความมั่งคั่งในมิติใหม่แห่งอนาคต (Future Wealth)” ในงานมหกรรมการเงินปีที่ผ่านมา |
|
|
|
|
|
|
|
นางขวัญใจ เตชเสนสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดี |
|
|
|
|
|
หนังสือพิมพ์แนวหน้า ครบรอบ 42 ปี |
|
|
|
|
|
|
โอกาสหนังสือพิมพ์แนวหน้า ครบรอบ 42 ปี พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบมูลนิธิช่วยการศึกษา กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอนันตเดช พงษ์พันธุ์ บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า รับมอบ ณ สำนักงานหนังสือพิมพ์แนวหน้า เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
|
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ก้าวสู่ปีที่ 22 |
|
|
|
|
|
|
โอกาสสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี ในโครงการสู้ COVID-19 โดยมีนายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออนไลน์แอ็สเซ็ท จำกัด (สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย) รับมอบ ณ อาคารออนไลน์แอ็สเซ็ท เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ครบรอบ 58 ปี |
|
|
|
|
|
|
โอกาสหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ครบรอบ 58 ปี พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบมูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล โดยมีนางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ กรรมการบริหาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ รับมอบ ณ สำนักพิมพ์เดลินิวส์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|