 |
 |
|
EXIM BANK บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำคณะผู้บริหาร EXIM BANK บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2565 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK จับมือ ADB และ JICA สนับสนุนเงินกู้ร่วม 600 ลบ. ให้กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์
พัฒนาเรือโดยสารไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยารายแรกของไทย พร้อมเทคโนโลยีสู่สังคมไร้เงินสด |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) นายอโศก ลาวาซา รองประธาน ด้านการปฏิบัติการภาคเอกชนและการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) และนายทาคาฮิโระ โมริตะ หัวหน้าผู้แทนองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินจำนวนรวม 600 ล้านบาท โดยทั้งสามองค์กรร่วมสนับสนุนวงเงินสินเชื่อระยะยาว โดยมี ADB เป็นผู้จัดการเงินกู้ร่วมให้บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด ในกลุ่ม EA ใช้จัดหาเรือโดยสารไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มรูปแบบรายแรกในประเทศไทย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล กรรมการบริหาร EXIM BANK ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในครั้งนี้ ณ ท่าเรือ CAT Tower เมื่อเร็ว ๆ นี้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK ตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อให้แก่ธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เป็น 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เหลือศูนย์ตามเป้าหมายของประเทศไทยและประชาคมโลก จึงพร้อมสนับสนุนทางการเงินให้แก่ธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ ใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างหมุนเวียน ตลอดจนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้นับเป็นก้าวแรกของการสนับสนุนการพัฒนาเรือโดยสารอัจฉริยะลำแรกในประเทศไทยที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ลดการใช้น้ำมันได้ปีละกว่า 5 ล้านลิตร ลดการปล่อยคาร์บอนในชั้นบรรยากาศได้ปีละ 18,900 ตันคาร์บอน นอกจากนี้ เรือโดยสารไฟฟ้ายังตอบรับเทรนด์สังคมไร้เงินสด โดยรับชำระค่าโดยสารเป็นบัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือบัตรที่มีสัญลักษณ์ Contactless ช่วยลดการสัมผัส และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และเศรษฐกิจ BCG
“ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับ ADB, JICA และ กองทุน Clean Technology Fund (CTF) ซึ่งสนับสนุนเงินกู้ผ่าน ADB ในครั้งนี้เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีโดยคนไทยซึ่งเป็นทีมงานของกลุ่มบริษัท EA ที่มีศักยภาพทัดเทียมระดับโลกในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า โดยรุกคืบเข้าสู่เรือโดยสารไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของคนไทย เป็นครั้งแรก เพื่อลดภาระของการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยมากขึ้นให้แก่ประชาชนที่สัญจรทางน้ำเพื่อข้ามฟากหรือเดินทางไปยังท่าต่าง ๆ เพื่อเชื่อมต่อกับการขนส่งทางบกจากท่าต่าง ๆ ด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีเสียงดังรบกวน ไร้มลพิษทางอากาศ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสอดรับกับภารกิจของ EXIM BANK ซึ่งมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ด้วยการดำเนินภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริมและสานพลัง” การพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจ ประเทศไทย และประชาคมโลก” ดร.รักษ์ กล่าว |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK ผนึกกำลัง บสย. เติมทุน-ค้ำประกัน เดินเกมเปลี่ยนประเทศไทย
เติมเต็มเศรษฐกิจฐานรากและวงจรธุรกิจส่งออก ดันเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและเติบโตยั่งยืน |
|
|
 |
 |
|
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า การส่งออกเป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนลุกลามจนกลายเป็นสงครามตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้บั่นทอนทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย รวมทั้งกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงราว 5% นับตั้งแต่เกิดสงคราม เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดและมีความเสี่ยงจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้นจากการนำเข้าน้ำมันในราคาที่สูงขึ้น หลายหน่วยงานเศรษฐกิจคาดการณ์ว่า GDP ประเทศไทยในปี 2565 จะขยายตัวไม่ถึง 3% จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด และความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยเงินเฟ้อเดือนมีนาคมอยู่ที่ 5.7% สูงสุดในรอบ 13 ปี กดดันกำลังซื้อและต้นทุนการผลิต
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปรียบเสมือน “มะเร็ง” ที่อาจลุกลามและสร้างแรงกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อความเชื่อมั่นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แม้ในระยะแรก อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงจำกัด เพราะไทยพึ่งพาการค้ากับรัสเซียและยูเครนเพียง 0.6% (รัสเซีย 0.5% ยูเครน 0.1%) ของมูลค่าการค้ารวมของไทย แต่อาจกดดันการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอยู่บ้าง โดยนับตั้งแต่เปิดประเทศเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวรัสเซียได้กลับเข้ามาในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย อย่างไรก็ตาม ภาวะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มได้รับผลกระทบทางอ้อมด้านราคา (Price Effect) ที่ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่รัสเซียและยูเครนมีส่วนแบ่งในตลาดโลกค่อนข้างมาก ที่เห็นได้ชัดได้แก่ สินค้ากลุ่มพลังงาน โดยราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 40% จนเริ่มส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังธุรกิจที่พึ่งพาพลังงานสูง อาทิ การขนส่ง โรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล เหล็ก ซีเมนต์ รวมถึงกลุ่มธัญพืชที่จะกระทบต่อการผลิตอาหาร และกลุ่มแร่หายากที่จะกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมตามมา นอกจากนี้ ผลกระทบด้านราคาดังกล่าวยังอาจลุกลามจนกระทบอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคถูกกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น การลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้การนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าทุนมีราคาแพงขึ้น
ดร.รักษ์ กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยก้าวข้ามความเสี่ยงดังกล่าวและขยายตัวได้ต่อเนื่อง ผู้ส่งออกไทยภายใต้โลกยุค Next Normal ต้องพลิกโฉม Supply Chain ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหาวัตถุดิบ การผลิต การกระจายสินค้า การขาย และตัวสินค้าเอง กล่าวคือ การหาวัตถุดิบเพื่อป้อนกระบวนการผลิตมุ่งเน้นแหล่งใกล้ ๆ โดยเฉพาะภายในประเทศหรือภูมิภาคเดียวกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านการขาดแคลนวัตถุดิบหรือข้อจำกัดของการขนส่งข้ามประเทศ การผลิตในแต่ละขั้นตอนเน้นการยกระดับเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมูลค่าสินค้า การขนส่งและกระจายสินค้าต้องมีแผนสำรองอยู่เสมอ การขายสินค้าเน้นออนไลน์มากขึ้น สินค้าต้องมีอัตลักษณ์และสอดรับกับเมกะเทรนด์ยุคใหม่ อาทิ การใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้ส่งออกไทยพึ่งพาวัตถุดิบในประเทศ (Local Content) เป็นส่วนใหญ่ คิดเป็น 70% ของมูลค่าส่งออกรวม และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ค่าขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น EXIM BANK จึงร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สนับสนุนให้ผู้ประกอบการใน Supply Chain การส่งออกเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องและยกระดับคุณภาพธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก ผู้ส่งออก และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ตลอดทั้งกระบวนการของธุรกิจส่งออกและที่เกี่ยวเนื่องให้แข็งแกร่งและแข่งขันได้ในระดับสากล
ในโอกาสนี้ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรมการให้สินเชื่อแก่ Supply Chain การส่งออก โดยนำ บสย. เข้ามาแทนหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยสมบูรณ์และปลดล็อกให้ “บุคคล” สามารถกู้เงินทำธุรกิจเพื่อส่งมอบวัตถุดิบให้ผู้ส่งออก เติมเต็มสภาพคล่องให้แก่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เพื่อกระตุ้นการส่งออกของไทยท่ามกลางปัจจัยท้าทายในปัจจุบัน
• สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อซัพพลายเออร์ส่งออก สำหรับนิติบุคคลและบุคคลที่ผลิต/จำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการที่ยังไม่พร้อมดำเนินธุรกิจส่งออก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย Prime Rate (เท่ากับ 5.75% ต่อปี ณ ปัจจุบัน) ตลอดอายุโครงการ 5 ปี ใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. ร่วมกับผู้บริหารหลัก และ/หรือนิติบุคคลค้ำประกัน พิเศษ! ลดดอกเบี้ยอีก 0.75% ในปีแรก สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม S-curve ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีเอกสารรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ตามที่ธนาคารกำหนด
• สินเชื่อ EXIM Logistics สำหรับผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางเรือ ทางบก และทางอากาศ วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 5.0% ต่อปีในปีแรก สำหรับวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. ร่วมกับบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันเท่านั้น พิเศษ! ลดดอกเบี้ยอีก 0.50% ใน 2 ปีแรกสำหรับผู้เข้าร่วมงานและลงทะเบียนในกิจกรรมต่าง ๆ ของ EXIM BANK หรืออยู่ในสมาคมหรือเป็นสมาชิกตามที่ธนาคารกำหนด
ผู้สนใจสามารถขอรับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มีนาคม 2566 สอบถาม EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999 พิเศษ! หากขอสินเชื่อภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 รับส่วนลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปีในปีแรก ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ค่าธรรมเนียม Front-end Fee รวมลดเหลือเพียง 1% จากเดิม 2% กรณีใช้ บสย. ค้ำประกันร่วม เพื่อลดภาระผู้ประกอบการเพิ่มเติม
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า บสย. พร้อมจับมือพันธมิตรเพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีวงเงินค้ำประกันรวม 94,000 ล้านบาท ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 9 (PGS 9) ประกอบด้วย 3 โครงการสำคัญ ดังนี้
• โครงการ บสย. SMEs นำเข้า-ส่งออก วงเงิน 1,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี
• โครงการ บสย. SMEs เติมเต็มรายย่อย วงเงิน 8,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี
• โครงการ บสย. SMEs ดีแน่นอน วงเงิน 85,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี
วงเงินค้ำประกันจำนวน 94,000 ล้านบาทจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบอย่างน้อย 116,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือ SMEs ได้จำนวน 20,600 ราย และยังช่วยรักษาการจ้างงานในระบบกว่า 600,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ บสย. ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2565 สอบถามศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs บสย. F.A.Center โทร. 0 2890 9999 หรือ Line @doctor.tcg
“ท่ามกลางปัจจัยท้าทายรอบด้าน EXIM BANK ยังมุ่งสู่บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย เร่งเดินหน้าสานพลังกับพันธมิตร อาทิ บสย. ซึ่งทั้งสองหน่วยงานอยู่ระหว่างพัฒนาเครื่องมือในการประเมินคุณภาพสินเชื่อ (Credit Scoring) และส่งต่อลูกค้าระหว่างกัน (Referral) เพื่อให้สามารถบริการแก่ผู้ประกอบการได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายยิ่งขึ้น เร่งฟื้นเศรษฐกิจไทยและต่อยอดการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน โดยใช้จุดแข็งของทั้งสององค์กร ทำหน้าที่ซ่อม สร้าง และเสริมให้เศรษฐกิจตั้งแต่ระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน ไปจนถึงโรงงานสามารถเติบโตและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ใช้ศักยภาพของตนเองบวกกับความได้เปรียบของประเทศเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างไร้พรมแดน สร้างเสน่ห์ของสินค้าไทยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีดิจิทัล และสุขภาพมากขึ้น สร้างเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวหรือ BCG Economy โดยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์ กล่าว |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK สนับสนุนคอนสแตนท์ เอนเนอร์จี กรุ๊ป 155 ลบ. ติดตั้งระบบ Solar Rooftop
ขยายธุรกิจพลังงานสะอาด ช่วยลดปัญหาโลกร้อนและต้นทุนด้านสาธารณูปโภคให้แก่คู่ค้า |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายแฟรงค์ เบอร์นาร์ด คอนสแตนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอนสแตนท์ เอนเนอร์จี กรุ๊ป ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวนรวม 155 ล้านบาทให้แก่บริษัท โซล่าร์ รูฟท็อป ซีอี 7 จำกัด ในเครือคอนแสตนท์ เอ็นเนอร์จี กรุ๊ป เพื่อสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิต 11.08 เมกะวัตต์ สำหรับจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่บริษัทเอกชนต่อไป ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากการที่ EXIM BANK มุ่งดำเนินภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริมและสานพลัง” การพัฒนาประเทศ การสนับสนุนทางการเงินให้แก่คอนสแตนท์ เอนเนอร์จี กรุ๊ปในครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ตามเป้าหมายของ EXIM BANK ที่จะขยายสินเชื่อให้แก่ธุรกิจ BCG เป็นเม็ดเงินถึง 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 เพื่อร่วมกับประชาคมโลกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับองค์กรธุรกิจ ประเทศชาติ และประชาคมโลก
ทั้งนี้ คอนสแตนท์ เอนเนอร์จี กรุ๊ป รับบริหารจัดการธุรกิจพลังงานสะอาด รวมถึงพัฒนาแหล่งเก็บไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้แก่บริษัทคู่ค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบระบบ จัดหาแหล่งเงินทุน ก่อสร้าง และบริหารจัดการโครงการอุตสาหกรรมทั้งขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ ช่วยลดต้นทุนและภาระของบริษัทคู่ค้าในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและยกระดับธุรกิจสู่มาตรฐานสากล |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK จับมือ CMMU เติมองค์ความรู้และโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน
สร้างผู้ประกอบการที่บริหารจัดการด้วยนวัตกรรมสู่เวทีการค้าโลก |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และ รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้กับนักศึกษาและผู้ประกอบการไทย” เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการธุรกิจด้วยนวัตกรรมป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจ พร้อมสนับสนุนทั้งความรู้และเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยในเวทีการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้เสวนาและบอกเล่ากลยุทธ์ของ EXIM BANK ในการ “ซ่อม สร้าง เสริมและสานพลัง” สนับสนุนผู้ประกอบการไทย ในงานสัมมนาออนไลน์ “Shift ธุรกิจ คิดต่างอย่าง Next Normal” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม CMMU ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK จับมือ ธ.ก.ส. และ วว. ปั้น Smart Farmers เป็น Smart Exporters
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมเปิดโครงการสัมมนา “เปิดโลกการค้า เจรจาธุรกิจ พิชิตตลาดส่งออก 2022” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เมษายน 2565 ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานร่วมสานพลังนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาบูรณาการความร่วมมือพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ภาคการเกษตร จากการเป็น Smart Farmers ให้สามารถส่งออกได้ รวมทั้งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โอกาสทางธุรกิจภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) และการค้าขายออนไลน์ผ่าน E-Commerce Platform โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมสัมมนากว่า 80 ราย ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ & คอนเวนชั่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK ร่วมงานสถาปนากระทรวงการคลัง ครบรอบ 147 ปี |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมงานวันสถาปนากระทรวงการคลัง ครบรอบ 147 ปี โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง ผู้บริหารหน่วยงานในกำกับกระทรวงการคลัง เข้าร่วมพิธี ณ กระทรวงการคลัง เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK ร่วมยินดีประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย |
|
|
 |
 |
 |
|
ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล (ซ้าย) ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) วาระปี 2565-2567 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK ร่วมเป็นวิทยากรงานสัมมนา
“ทางรอดธุรกิจไทย ปรับตัวอย่างไรในวิกฤตโลกปัจจุบัน” |
|
|
 |
 |
 |
|
นางขวัญใจ เตชเสนสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการปรับตัวของธุรกิจไทย
ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ในงานสัมมนา “ทางรอดธุรกิจไทย ปรับตัวอย่างไรในวิกฤตโลกปัจจุบัน” จัดโดย
คณะกรรมการยุโรป สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยมีข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและแนวทางการปรับตัว
ทางธุรกิจด้านการค้าและการลงทุนในทวีปยุโรปและเครือรัฐเอกราช โดยมี ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย
และประธานคณะกรรมการยุโรป สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการสัมมนา ณ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่ง
ประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
|
 |
|
นางขวัญใจ เตชเสนสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีโอกาสครบรอบการก่อตั้งกิจการของสื่อมวลชน |
|
|
 |
|
 |
|
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ครบรอบ 70 ปี |
|
|
 |
 |
 |
|
ร่วมยินดีกับนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท โอกาสบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (อสมท) ครบรอบ 70 ปี พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ อสมท สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
 |
|
หนังสือพิมพ์ข่าวสด ก้าวสู่ปีที่ 32 |
|
|
 |
 |
 |
|
ร่วมยินกับดีนายวุฒิเทพ เตชะภัทร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ข่าวสด และนายสุรพงษ์ สุวรรณรินทร์ บรรณาธิการข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ข่าวสด โอกาสหนังสือพิมพ์ข่าวสด ก้าวเข้าสู่ปีที่ 32 พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบมูลนิธิ ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ แบ่งปันความรู้ฯ ณ สำนักงาน หนังสือพิมพ์ข่าวสด เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
 |
|
EXIM BANK แต่งตั้งรองกรรมการผู้จัดการ |
|
|
 |
|
 |
EXIM BANK แต่งตั้ง ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี เป็นรองกรรมการผู้จัดการ ดูแลสายงานกลยุทธ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
EXIM BANK แต่งตั้ง ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี เป็น รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลสายงานกลยุทธ์ ครอบคลุมงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร การวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลผลการดำเนินงาน งานวิจัยธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงกระบวนการทำงานทางธุรกิจและเสริมสร้างนวัตกรรมในองค์กร ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
ดร.เบญจรงค์ จบการศึกษาปริญญาเอกและปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา และปริญญาตรีสาขาคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา |
|
|
|
เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์องค์กร และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร MEbyTMB ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ก่อนเข้าร่วมงานกับ EXIM BANK ดร.เบญจรงค์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK แต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี |
|
|
 |
|
 |
EXIM BANK แต่งตั้ง ดร.มีนา ภัทรนาวิก เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
EXIM BANK แต่งตั้ง ดร.มีนา ภัทรนาวิก เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี ดูแลงานด้านการจัดการระบบงานบัญชีของธนาคารให้เป็นไปตามนโยบาย มาตรฐานการบัญชี และข้อกําหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย การรับ-จ่ายเงินและการโอนเงิน การให้คําปรึกษาด้านระบบงานบัญชี การประมวลผลข้อมูล และการจัดทํางบการเงินและรายงานทางการเงิน ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
ดร.มีนา จบการศึกษาปริญญาเอก ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตรและ |
|
|
|
การบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท บัญชีมหาบัณฑิต และปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตรและการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงินและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซากุระ อินดัสทรี้ (ประเทศไทย) จำกัด และอาจารย์พิเศษ คณะพาณิชยศาสตรและการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมงานกับ EXIM BANK ในปี 2560 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี
|
|
|
 |
 |
 |
|
|