 |
|
EXIM BANK เปิดสำนักงานผู้แทนแห่งที่ 3 ในกรุงพนมเปญ
พร้อมเปิดตัวบริการสินเชื่อแก่ผู้ซื้อ ผลักดันการส่งออกไทยไป CLMV |
|
|
 |
 |
 |
|
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางเนียว จันทานา รองผู้ว่าการธนาคาร
แห่งชาติกัมพูชา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในกรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยมี
กรรมการและผู้บริหาร EXIM BANK ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยและกัมพูชา รวมทั้ง
ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย เข้าร่วมงานเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีธรา กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเร็วๆ นี้
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า EXIM BANK มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่าง
ประเทศของไทยใน CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์
สหรัฐ หรือ 64,000 ล้านบาท นับตั้งแต่ EXIM BANK ได้เปิดดำเนินการและกำลังก้าวสู่ปีที่ 26 ในปัจจุบัน
การเปิดสำนักงานผู้แทนของ EXIM BANK ในกรุงพนมเปญเป็นผลจากการสนับสนุนของรัฐบาลกัมพูชา
ผ่านธนาคารแห่งชาติกัมพูชา และกระทรวงการคลังของกัมพูชา เพื่อให้ EXIM BANK มีบทบาทเพิ่ม
มากขึ้นในระดับภูมิภาค ในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทยที่จะทำงานร่วมกัน
กับภาครัฐและเอกชนในกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตรที่สำคัญของไทยมายาวนาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน
การค้าไทย-กัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 15% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2561 มีมูลค่า
สูงถึง 8,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 36.6% จากปีก่อน และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มเกือบเท่าตัวถึง
15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ในขณะที่การลงทุนไทยในกัมพูชาช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง
7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 4 ในกัมพูชา นอกจากนี้
ประเทศไทยได้ประกาศแนวคิดหลักสำหรับการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ ได้แก่ ร่วมมือ ร่วมใจ
ก้าวไกล ยั่งยืน (Advancing Partnership for Sustainability) ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับ
ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน มุ่งสร้างสังคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน
โดยประเทศไทยจะเสริมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกันมากขึ้นกับสมาชิกอาเซียน รวมทั้งกัมพูชา
นำไปสู่ความเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้นในด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และ
ความเชื่อมโยงในระดับประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนกันของอาเซียนโดยแท้จริง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในกรุงพนมเปญ
จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งมีโอกาสทางธุรกิจอยู่มากในกัมพูชา
โดยมี EXIM BANK ทำหน้าที่ให้ข้อมูลและคำปรึกษาด้านการค้าการลงทุนและการเงินแก่ผู้ประกอบการไทย
เป็นกลไกสำคัญในภาคการเงินการธนาคารที่สร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทย ควบคู่
ไปกับการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมใน CLMV
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า การเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM
BANK ในกรุงพนมเปญอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสำนักงานผู้แทนในกรุง
พนมเปญจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชาเมื่อเดือนมกราคม 2562 เป็นไปตามยุทธศาสตร์ในการเชื่อมไทย
เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดย EXIM BANK จะทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน ภายใต้ทีมประเทศไทย สร้างโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต่อการวางแผนและดำเนินธุรกิจใน
ประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในตลาดใหม่ (New Frontiers) รวมถึง CLMV ตลอดจนพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เชื่อมโยง SMEs ในลักษณะห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) กับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ ทั้งนี้ EXIM BANK
เปิดสำนักงานผู้แทนในกรุงพนมเปญเป็นแห่งที่ 3 ต่อเนื่องจากการเปิดสำนักงานผู้แทนในเมืองย่างกุ้ง
เมียนมา และเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า กัมพูชามีจุดเด่นด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 6.5% ต่อปีในช่วง 5 ปี
ข้างหน้า รัฐบาลกัมพูชามีนโยบายเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัว
และการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในปี 2566 ความเป็นเมืองที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการ
เปิดกว้างรับการลงทุนต่างชาติ ทั้งด้านกฎระเบียบและระบบการเงินที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ
ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับไทย เงินบาทยังได้รับการยอมรับในการ
ทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวในกัมพูชา อาทิ
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี และสปา เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ในกัมพูชา
กลุ่มประชากรในกรุงพนมเปญที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น ชาวต่างชาติที่ทำงานในกัมพูชา และนักท่องเที่ยว
ต่างชาติที่ต้องการบริการในแบบที่คุ้นเคยและได้มาตรฐาน ที่ผ่านมา EXIM BANK ได้สนับสนุนการลงทุน
ไทยในกัมพูชาจำนวนมากกว่า 4,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และ
การก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ
EXIM BANK พร้อมเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ “บริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในประเทศ CLMV
(EXIM Loan for CLMV Buyer)” เป็นวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการใน CLMV ใช้ซื้อสินค้าและ
บริการจากไทย วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี สูงสุด 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อราย และไม่เกิน 85% ของมูลค่า
ซื้อขายสินค้าหรือบริการจากไทย อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ LIBOR +4.0%ต่อปี บริการดังกล่าวมีเป้าหมาย
เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยไปยัง CLMV ในปี 2562 ต่อเนื่องจากปี 2561 ที่การส่งออกไป CLMV
ขยายตัวในระดับสูงถึง 17% ส่งผลให้สัดส่วนการส่งออกของไทยไป CLMV แซงหน้าตลาดส่งออก
สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ รวมทั้ง EU และญี่ปุ่น โดย EXIM BANK จะชำระค่าสินค้าโดยตรงให้แก่
ผู้ส่งออกไทย ช่วยให้ผู้ส่งออกมีความมั่นใจที่ขยายการค้ากับคู่ค้าใน CLMV
“ขณะที่ CLMV เป็นประเทศเป้าหมายทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทย โดยมีกัมพูชา
เป็นตลาดการค้ายุคใหม่ที่มีศักยภาพตามทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของ
ผู้บริโภครุ่นใหม่ในเมืองหลวงและเมืองสำคัญด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งมีความพร้อมรองรับการเริ่มต้น
และขยายตัวของธุรกิจ SMEs ไทย EXIM BANK จึงพร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในเชิงรุก
เพื่อผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน” นายพิศิษฐ์กล่าว |
|
|
 |
 |
 |
|
EXIM BANK สนับสนุนทุนการศึกษาผลิตบุคลากรป้อนธุรกิจโรงแรม
ผ่านมูลนิธิจินตมณีของผู้ประกอบการไทยในกัมพูชา |
|
|
 |
 |
 |
|
EXIM BANK มอบทุนการศึกษา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐภายใต้โครงการ CSR ผ่านความ
ร่วมมือกับมูลนิธิจินตมณี ซึ่งดำเนินการโดยโรงแรมจินตมณี ลูกค้าของ EXIM BANK เพื่อ
ช่วยให้เยาวชนกัมพูชาที่มีฐานะยากจนและสนใจประกอบอาชีพในธุรกิจโรงแรมได้รับโอกาส
เข้าอบรมและฝึกอาชีพเป็นระยะเวลา 10 เดือน ก่อนจะจบออกไปประกอบอาชีพในโรงแรมต่างๆ
ของกัมพูชาได้
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK เล็งเห็นถึงความสำคัญ
ของการศึกษา ว่าเป็นรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการสร้างสังคมที่เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อ
ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับกัมพูชาให้แน่นแฟ้นในโอกาสเปิดสำนักงานผู้แทน
ของ EXIM BANK ในกรุงพนมเปญ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม (CG &
CSR) ของ EXIM BANK จึงเห็นชอบให้ริเริ่มโครงการพัฒนาชุมชนสำคัญร่วมกับพันธมิตร โดยสอดคล้อง
กับยุทธศาสตร์ด้าน CSR ของ EXIM BANK ในการพัฒนาชุมชนสำคัญให้ประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยใช้
เครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ โดยเริ่มต้นจากมูลนิธิจินตมณีภายใต้
การดำเนินงานของโรงแรมจินตมณีในเมืองเสียมราฐอันเป็นที่ตั้งของมรดกโลก ซึ่งดำเนินโครงการ CSR
ด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อผลิตบุคลากรป้อนธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว ในปี 2562
EXIM BANK จึงร่วมสมทบทุนการศึกษาจำนวน 10 ทุนๆ ละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงิน 10,000
ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับให้เยาวชนกัมพูชาที่ยากไร้และสนใจประกอบอาชีพในธุรกิจโรงแรมนำไปใช้เป็น
ค่าเล่าเรียนและฝึกฝนทักษะด้านการโรงแรม ครอบคลุมการประกอบอาหาร งานบริการอาหารและ
เครื่องดื่ม งานต้อนรับ งานรักษาความสะอาด งานซ่อมบำรุง และสปา รวมถึงทักษะด้านการใช้
ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ และการใช้ชีวิต ผ่านโครงการด้านการศึกษาของมูลนิธิจินตมณี อันจะช่วย
สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพให้แก่เยาวชนกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาเยาวชนที่สำเร็จหลักสูตรการอบรม
และปฏิบัติจริงเป็นระยะเวลา 10 เดือนจะได้งานในธุรกิจการบริการและการโรงแรมในกัมพูชา 100%
มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีอาชีพเลี้ยงตนเอง อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในธุรกิจ
โรงแรมของกัมพูชา
ทั้งนี้ มูลนิธิจินตมณีจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 เพื่อดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมท้องถิ่น
ในกัมพูชาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ด้วยรายได้ส่วนหนึ่งของโรงแรมจินตมณีและเงินบริจาคจากผู้มาพัก
และองค์กรภาครัฐและเอกชนที่สนใจเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ โดยไม่นำเงินบริจาคไปใช้เป็น
ค่าใช้จ่ายส่วนกลางในการบริหารจัดการมูลนิธิหรือค่าใช้จ่ายพนักงาน โรงแรมจินตมณีเป็นผู้รับผิดชอบ
ค่าใช้จ่ายดังกล่าวทั้งหมด ส่วนเงินของมูลนิธิใช้สำหรับดำเนินงานใน 5 โครงการหลัก ประกอบด้วย
1) โครงการด้านการศึกษา 2) ศูนย์พัฒนาทางการเกษตร เพื่อให้ชาวบ้านมีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ สามารถ
ผลิตและขายผลผลิตให้กับโรงแรมในเมืองเสียมราฐได้ 3) โครงการเงินกู้ปราศจากดอกเบี้ย เพื่อสนับสนุน
การเริ่มต้นธุรกิจของผู้ประกอบการท้องถิ่น 4) โครงการดูแลสุขอนามัยและการรักษาพยาบาล และ
5) โครงการน้ำสะอาด
“ในการทำหน้าที่ของ EXIM BANK ร่วมกับภาครัฐและเอกชนควบคู่ไปกับการเป็นกลไกสำคัญทาง
การเงินที่ช่วยขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทย ได้แก่ การดูแลและรับผิดชอบต่อ
สังคมและชุมชนสำคัญ โดยเฉพาะชุมชนที่ขาดแคลนโอกาส ครั้งนี้ EXIM BANK จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่ง
กับชุมชนในกัมพูชา เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต่อยอดการพัฒนา
ทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนา CLMVT (กัมพูชา
สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) อย่างยั่งยืน” นายพิศิษฐ์กล่าว |
|
|
 |
 |
 |
|
EXIM BANK เยี่ยมชมกิจการคาเฟ่ อเมซอนในกัมพูชา |
|
|
 |
 |
 |
|
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ประธาน
กรรมการ EXIM BANK พร้อมด้วยกรรมการธนาคารและผู้บริหาร EXIM BANK ตลอดจนสื่อมวลชน
จากประเทศไทย เยี่ยมชมกิจการคาเฟ่ อเมซอน สาขา BKK63 ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในโอกาส
เดินทางไปร่วมพิธีเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในกรุงพนมเปญ โดยมีนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
และนายบุญมา พนธนกรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. (กัมพูชา) จำกัด ให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้ |
|
|
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
EXIM BANK ต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน |
|
|
 |
 |
 |
|
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับนายอาดามา ดอสโซ เอกอัคร
ราชทูตสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมแนะนำบทบาทของ EXIM BANK
ในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือ
เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทยกับสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ณ EXIM BANK
สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ |
|
|
 |
|
|
|
EXIM BANK พบปะหารือธนาคารแห่งประเทศจีน สร้างความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการไทย |
|
|
 |