EXIM BANK ฉลองครบรอบ 24 ปี ร่วมกับภาครัฐและเอกชนบริจาคสมทบทุน
มูลนิธิรามาธิบดีฯ และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
 
            นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน EXIM BANK ทำบุญ
ตักบาตร และต้อนรับผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมยินดีในงานครบรอบ 24 ปี EXIM BANK และร่วมกับ EXIM
BANK บริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและทุนสถาบัน
การแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เพื่อสนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลรัฐและโรงเรียนแพทย์ขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการให้บริการทาง
การแพทย์แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ EXIM BANK เปิดดำเนินการ
อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2537
 
  EXIM BANK กระตุ้น SMEs ใช้เครื่องมือปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคส่งออกไทย
 
            นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวในงานสัมมนาโครงการบริหารความเสี่ยง FX (อัตราแลกเปลี่ยน)
ของ SMEs ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ผู้ส่งออก SMEs ไทยในปัจจุบันมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศ
พัฒนาแล้ว เนื่องจากผู้ส่งออก SMEs ไทยไม่มีข้อมูลความรู้เพียงพอที่จะเริ่มต้นหรือขยายการค้าขายไปตลาดต่างประเทศได้อย่าง
ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในภาวะที่ค่าเงินบาทผันผวน กล่าวคือ ตั้งแต่ปลายปี 2560 ถึงต้นปี 2561 เงินบาทได้แข็งค่าขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง แตะระดับ 31.24 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา นับเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 4 ปี
โดยสอดคล้องกับทิศทางค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค ส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดคือ รายได้ของผู้ส่งออกไทยลดลงเมื่อแปลงกลับเป็น
สกุลเงินบาท ทำให้ SMEs ไทยที่มีเงินทุนหมุนเวียนและกำไรจากการขายสินค้าในแต่ละล็อตไม่สูงนักมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนหรือ
กิจการสะดุดลง EXIM BANK จึงร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย จัดทำโครงการบริหารความเสี่ยง FX ของ SMEs ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560
ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ SMEs มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและความรู้ทางการเงินอื่นๆ
จากนั้นผู้เข้าร่วมสัมมนาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับวงเงินค่าธรรมเนียมมูลค่า 30,000 บาทต่อกิจการ เพื่อนำไปใช้ทดลองซื้อ
FX Options กับธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ

          นายพิศิษฐ์ เปิดเผยต่อไปว่า ปัจจุบันมี SMEs ได้รับวงเงินค่าธรรมเนียมสำหรับทดลองซื้อ FX Options ภายใต้โครงการ
บริหารความเสี่ยง FX ของ SMEs แล้วจำนวน 2,037 ราย คิดเป็นวงเงิน 61.11 ล้านบาท หรือประมาณ 41% จากวงเงินที่ได้รับ
อนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการนี้จำนวนทั้งสิ้น 150 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา SMEs หลายรายลังเลที่จะเข้าร่วมโครงการ
เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ของ FX Options ต้องการรอดูทิศทางอัตราแลกเปลี่ยน และเห็นว่ายังมีเวลาตัดสินใจซื้อ
FX Options ภายในเดือนมิถุนายน 2561 ก่อนที่โครงการจะสิ้นสุดลง EXIM BANK จึงร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจัดสัมมนาโครงการ
บริหารความเสี่ยง FX (อัตราแลกเปลี่ยน) ของ SMEs ณ EXIM BANK ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และจะจัดอบรมทางออนไลน์ผ่าน
เทปบันทึกภาพการอบรม ณ EXIM BANK ในพื้นที่ทำการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สาขาของธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งที่เข้าร่วม
โครงการ ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) สำนักงานภาคของ ธปท. ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคของกรมส่งเสริม
อุตสาหกรรม (กสอ.) 11 จังหวัด สสว. สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เป็นต้น

          “ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก แต่สามารถปิดความเสี่ยงได้ เพื่อไม่ให้ผู้ส่งออกต้องกังวลจน
เสียเวลาในการประกอบธุรกิจ ธุรกิจไม่สะดุดหรือขาดทุนเนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การซื้อ FX Options เป็น
ทางเลือกหนึ่งของการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่ภาครัฐต้องการให้ผู้ส่งออกไทยได้รู้จักและทดลองใช้ เพื่อเปลี่ยนความ
เสี่ยงเป็นความแน่นอนของรายรับหรือกำไรจากการส่งออกสินค้าล็อตนั้นๆ” นายพิศิษฐ์กล่าว
 
  นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ต้อนรับ ดร.วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ
สายตลาดการเงิน ธปท. และวิทยากรในงานสัมมนา “โครงการบริหารความเสี่ยง FX (อัตราแลกเปลี่ยน) 
ของ SMEs” 
 
  EXIM BANK ชูนโยบายพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการค้าการลงทุนใน CLMV
และสร้างผู้ส่งออก SMEs ให้เข้มแข็ง พร้อมเปิดบริการ “สินเชื่อส่งออกสุขใจ”
ช่วย SMEs ไม่มีหลักประกันให้เริ่มต้นส่งออกได้
 
            EXIM BANK เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรและเศรษฐกิจไทย เป้าหมายปี 61 เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบรับทิศทาง
เศรษฐกิจการค้าโลกที่มุ่งสู่ตลาดใหม่ การลงทุนของไทยในต่างประเทศขยายตัวขึ้น และการเติบโตของภาคธุรกิจอย่าง
ยั่งยืนต้องนำด้วยนวัตกรรม พร้อมนำผู้ประกอบการไทยรุกขยายการค้าการลงทุนในตลาด CLMV และต่อยอดพัฒนา
ผู้ส่งออกและนักลงทุน SMEs ไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมนำเสนอบริการใหม่สร้างผู้ส่งออก SMEs รายใหม่
ช่วย SMEs ที่ไม่มีหลักประกันให้เริ่มต้นส่งออกได้ด้วย “สินเชื่อส่งออกสุขใจ” วงเงินสูงสุด 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย
4.50% ต่อปีในปีแรกสำหรับนิติบุคคลบัญชีเดียวตามนโยบายรัฐบาล

          นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การค้าโลกมุ่งสู่ตลาดใหม่ที่เรียกว่า New Frontiers โดยเศรษฐกิจตลาดใหม่ในปี 2560 มีสัดส่วนกว่า 50% เทียบกับประมาณ 20% ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา EXIM BANK จึงมีเป้าหมายขยายสินเชื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ CLMV ซึ่งเป็น
ตลาดใหม่ที่สำคัญของไทย ด้วยมูลค่าส่งออกที่ขยายตัวเฉลี่ย 13% ต่อปี จาก 260,000 ล้านบาทในปี 2550 เป็น 850,000 ล้านบาท
ในปี 2560

          ขณะเดียวกัน ทิศทางเศรษฐกิจโลกในปัจุบันใช้การลงทุนนำการค้า ทำให้เกิดการขยายการลงทุนในต่างประเทศเพื่อสร้างฐาน
การผลิตและตลาดการค้าแห่งใหม่ ผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัวให้ทัน EXIM BANK จึงพร้อมให้สินเชื่อขยายการลงทุนของ
ผู้ประกอบการไทยใน CLMV ต่อยอดเม็ดเงินลงทุนของผู้ประกอบการไทยในตลาดดังกล่าว ซึ่งขยายตัวเฉลี่ย 30% ต่อปี จากยอด
คงค้างเงินลงทุนของไทยใน CLMV ที่ 33,000 ล้านบาทในปี 2550 เป็น 470,000 ล้านบาทในไตรมาส 3 ของปี 2560

          นอกจากนี้ เมื่อการเติบโตของภาคธุรกิจอย่างยั่งยืนต้องนำด้วยนวัตกรรม EXIM BANK จึงเร่งขยายเครือข่ายพันธมิตร ทำงาน
ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดโครงการและช่องทางใหม่ๆ ที่จะสนับสนุนด้านข้อมูลความรู้และบริการ
ทางการเงินให้ SMEs ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อต่อยอดการพัฒนา
อุตสาหกรรมของไทยและแข่งขันในเวทีการค้าระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว รวมทั้งปิดช่องว่างในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ของผู้ประกอบการ SMEs ที่พร้อมเริ่มต้นส่งออกให้สามารถเข้าสู่ตลาดการค้าโลกได้ เพื่อสร้างฐานรากเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ EXIM BANK มีโครงการนำร่องด้านนวัตกรรม อาทิ การให้บริการประกันการส่งออกออนไลน์ การทบทวนวงเงินสินเชื่อออนไลน์
และการพัฒนาธุรกรรมออนไลน์

          ในปี 2561 EXIM BANK ได้พัฒนาบริการใหม่ “สินเชื่อส่งออกสุขใจ (EXIM Happy Credit)” เป็นบริการสินเชื่อหมุนเวียน พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) วงเงินสูงสุด 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.50% ต่อปีในปีแรกสำหรับนิติบุคคลบัญชีเดียวตามนโยบายรัฐบาล อนุมัติภายใน 7 วันทำการ ไม่ต้องมีหลักประกัน ใช้เพียงบุคคลค้ำประกัน
เท่านั้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีหลักประกันสามารถเริ่มต้นส่งออกได้ โดยมีเป้าหมายอนุมัติวงเงินให้แก่ผู้ส่งออก SMEs
รายใหม่จำนวน 750 รายภายในปี 2561

          นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า จากปี 2560 ที่ EXIM BANK ได้ดำเนินงานตามแผนแม่บท 10 ปี (ปี 2560-2570) โดยสอดคล้องกับ
นโยบาย Thailand 4.0 แผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (ปี 2560-2564)
และแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจสาขาสถาบันการเงิน ผลการดำเนินงานของ EXIM BANK ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 1,360 ล้านบาท โดย
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 91,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2559 จำนวน 8,717 ล้านบาท เป็น
สินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปีจำนวน 27,331 ล้านบาท และมีการชำระคืนของสินเชื่อเดิมบางส่วน ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ
(Business Turnover) 159,948 ล้านบาท

          นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ที่มีศักยภาพให้แข่งขันได้มากขึ้นทั้งทาง
การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 99,612 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs
เท่ากับ 37,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,110 ล้านบาท หรือ 6.02% เมื่อเทียบกับปีก่อน

          อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPL Ratio) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ 3.57% เท่ากับปีก่อน โดยมีสินเชื่อ
ด้อยคุณภาพจำนวน 3,285 ล้านบาท และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 7,949 ล้านบาท เป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ ธปท.
จำนวน 3,493 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองหนี้พึงกัน 227.53% ทำให้ธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงิน
ที่มั่นคง

          ในการทำหน้าที่องค์กรรับประกัน ให้บริการประกันการส่งออกเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินจากคู่ค้าใน
ต่างประเทศ ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย ทั้งในตลาดการค้าเดิมและตลาดใหม่ ในปี 2560 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุนเท่ากับ 65,903 ล้านบาท โดย 12,883
ล้านบาทเป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือ 19.55% ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม

          สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มี
วงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 67,160 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2560
จำนวน 36,216 ล้านบาท อีกทั้ง EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการขยายฐานการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่อย่าง CLMV (กัมพูชา
สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยในเดือนมิถุนายน 2560 EXIM BANK ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมา และ EXIM
BANK มีแผนจะเปิดสำนักงานตัวแทนใน สปป.ลาว และกัมพูชาต่อไป

          “ในปี 2561 EXIM BANK ยังคงมีบทบาทในเชิงรุกขยายสินเชื่อเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายสินเชื่อ
คงค้างโต 9% เป็น 100,000 ล้านบาท และเร่งขยายบริการประกันส่งออกและการลงทุนเพื่อให้ผู้ส่งออกใช้เป็นเครื่องมือบุกตลาด
อย่างมั่นใจ ผ่านช่องทางออนไลน์และช่องทางใหม่ๆ โดยความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องที่จะกระตุ้นให้เกิดปริมาณธุรกิจ
ระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น” นายพิศิษฐ์กล่าว

 
  EXIM BANK จับมือกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
 
            นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ถ่ายภาพร่วมกับนางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงพาณิชย์ และนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ ในพิธีเปิดโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur
Network Development Program: YEN-D Program) รุ่นที่ 4.1 ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่ง EXIM BANK เป็นพันธมิตร
ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการส่งเสริมให้เกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและประเทศ
เพื่อนบ้าน อันจะเป็นการสร้างเครือข่ายและเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนไทยของผู้ประกอบการไทยใน CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว
เมียนมา และเวียดนาม)
 
  EXIM BANK จับมือศูนย์การส่งออกแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
ขยายการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับรัสเซีย
 
            นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับนางสาวแอนนา เบลเยวา กรรมการ
ผู้จัดการ ศูนย์การส่งออกแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Export Center : REC)  เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน
ระหว่างไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย ในฐานะที่ REC เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่กำกับดูแลธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่ง
สหพันธรัฐรัสเซีย (EXIM BANK of Russia) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อและบริการรับประกันการส่งออกและการลงทุนให้แก่
ผู้ส่งออกและนักลงทุนของรัสเซีย ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
 
  EXIM BANK จับมือกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
พัฒนาผู้ประกอบการโครงการ Genius Academy 2018
 
            นางวรรธนา มงคลศรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ถ่ายภาพร่วมกับ ดร.พสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธานในพิธีเปิดโครงการ Genius Academy 2018 จัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อฝึกฝนผู้ประกอบการ
จากธุรกิจต่างๆ โดยโค้ชมืออาชีพให้เป็นอัจฉริยะทางธุรกิจ โดย EXIM BANK เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการฝึกอบรมด้านธุรกิจส่งออก
และการชำระเงินทางการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งให้การสนับสนุนทางการเงินทั้งด้านสินเชื่อและบริการประกันการส่งออกเพื่อป้องกัน
ความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ช่วยให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมที่จะเจรจาธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศในงานแสดงสินค้า
ระดับโลก ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อเร็วๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมออกบูทในงานมหกรรมการเงินพัทยา ครั้งที่ 8  
            นางวรรธนา มงคลศรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
การคลัง ประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินพัทยา ครั้งที่ 8 พลตำรวจตรี อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา และนายสันติ
วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และประธานการจัดงานมหกรรมการเงิน ณ บูท EXIM BANK ซึ่งพร้อม
ให้คำปรึกษาแนะนำและบริการทางการเงินแก่ SMEs ที่สนใจจะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก ณ ศูนย์ประชุมพีช รอยัล คลิฟ โฮเต็ล
กรุ๊ป จ.ชลบุรี เมื่อเร็วๆ นี้
 
  EXIM BANK มอบเงินสนับสนุนโครงการรถยนต์ไฟฟ้า
จากนักเรียนไทย ดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้
 
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบเงินสนับสนุนโครงการรถยนต์ไฟฟ้า จากนักเรียนไทย โดยมี
นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ผู้อำนวยการใหญ่ ดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
พระจอมเกล้าธนบุรีเป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้ในการพัฒนาต้นแบบรถยนต์แบบสามล้อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในระยะที่สอง ณ โรงเรียน
ดรุณสิกขาลัย เมื่อเร็วๆ นี้
 
  หน้าหลัก   I   Share โลกเศรษฐกิจ   I   เรื่องเล่าระหว่างทาง   I   ส่องเทรนด์โลก
เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ   I   แวดวงคู่ค้า   I   แนะนำบริการ   I   สรุปข่าว