EXIM BANK พลิกโฉมสู่บทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย”
ช่วยผู้ประกอบการทุกระดับ พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ นำทัพธุรกิจไทยรุกตลาดโลกอย่างสมดุล
 
 

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK แถลงแนวนโยบายและบทบาทของ EXIM BANK ภายหลังเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ หลังจากในปีที่ผ่านมาหดตัวสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง ขณะที่ความต้องการซื้อสินค้าภายในประเทศยังเปราะบางและการท่องเที่ยวยังไม่มีทีท่าจะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน การฟื้นตัวของภาคการส่งออกจึงเป็นความหวังในระยะสั้น แต่การผลักดันให้เศรษฐกิจไทยและภาคการส่งออกเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวยังติดขัดปัญหาเชิงโครงสร้างหลายประการ ทำให้ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา GDP ไทยโตเฉลี่ยเพียง 2% เทียบกับ GDP โลกที่โต 3% และประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามโตถึง 6% สอดคล้องกับการส่งออกของไทยโตเฉลี่ยเพียง 2% น้อยกว่าเฉลี่ยของโลกที่ 3% และการส่งออกเวียดนามที่โตถึง 15%

          ยิ่งไปกว่านั้น ไทยยังเผชิญปัญหา “ความย้อนแย้ง” ในเชิงโครงสร้างของผู้ประกอบการ แม้มีจำนวน SMEs มากถึง 3.1 ล้านราย คิดเป็น 99.5% ของทั้งระบบ ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีเพียง 1.5 หมื่นรายหรือ 0.5% ของทั้งระบบ แต่กลับมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสูงเกือบ 60% ของ GDP รวม อีกทั้งเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ย GDP ต่อกิจการ พบว่าผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจสูงกว่า SMEs ถึง 350 เท่า ยิ่งตอกย้ำว่าแม้ SMEs มีจำนวนมาก แต่ยังสร้างแรงส่งต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าที่ควร นอกจากนี้ SMEs ส่วนใหญ่ยังค้าขายอยู่ในประเทศ มีไม่ถึง 1% ของ SMEs ทั้งหมดที่สามารถเป็นผู้ส่งออกได้และสัดส่วนนี้แทบไม่ขยับเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ SMEs ส่วนใหญ่เผชิญการแข่งขันที่รุนแรงและข้อจำกัดต่าง ๆ ภายในประเทศ ลดทอนโอกาสการเติบโตและการเป็นเครื่องยนต์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า เศรษฐกิจและการส่งออกของไทยเปรียบเสมือนรถยนต์ที่กำลัง “ติดหล่ม” และต้องการการผลักดันให้เคลื่อนไปข้างหน้าในหลายมิติ ได้แก่ 1. การลงทุน สัดส่วนการลงทุนของภาคเอกชนต่อ GDP ในปี 2563 อยู่ที่ 16.6% ลดลงจาก 18.7% ในปี 2553 2. การพัฒนานวัตกรรม สัดส่วนการวิจัยและพัฒนา (R&D) ต่อ GDP ในปี 2561 ของไทยอยู่ที่ 1% เทียบกับเกาหลีใต้และไต้หวันซึ่งอยู่ที่ 4.5% และ 3.4% ตามลำดับ ทำให้การส่งออกของไทยยังเน้นสร้างมูลค่าผ่านปริมาณมากกว่าราคา 3. การเชื่อมโยง Supply Chain ของโลกยุคใหม่ ตามกระแส Megatrend 4. การสร้างผู้ส่งออกรายใหม่ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ เพื่อให้เป็นนักรบเศรษฐกิจที่จิ๋วแต่แจ๋ว มีภูมิคุ้มกันในยามวิกฤตและแรงส่งใหม่ช่วยผลักดันประเทศให้เติบโต นอกจากนี้ เศรษฐกิจและการส่งออกของไทยยังถูกกดดันจากกระแส Disruption ในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การเกิด COVID-19 สงครามการค้า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งหากไม่เร่งแก้ไขหรือพัฒนาก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยหยุดอยู่กับที่หรือกลายเป็นรถยนต์ที่วิ่งได้ช้า

          ดร.รักษ์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ EXIM BANK ต้องทำหน้าที่ “เครื่องยนต์รุ่นใหม่” ผลักดันให้ประเทศไทยหลุดจากภาวะติดหล่มข้างต้น โดยใช้นโยบาย Dual-track Policy ชูบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank)” ควบคู่กับการเป็น “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs (One Stop Trading Facilitator for SMEs)”

ภารกิจหลักของ EXIM BANK ในปี 2564 ได้แก่ การเร่ง “ซ่อม สร้าง เสริม” การพัฒนาประเทศไทย
          1. การเร่ง “ซ่อม” และ “สร้าง” ภาคอุตสาหกรรมของไทยให้เติบโตไปสู่อนาคต
              • ประคับประคองผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมที่ประสบวิกฤต
              • สร้างอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (เช่น เทคโนโลยีด้านสุขภาพ รถยนต์ไฟฟ้า) เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) โครงสร้างพื้นฐาน และการปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรมขนานใหญ่

          2. การเร่ง “สร้าง” ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย ตั้งแต่รายย่อยไปจนถึงรายกลางและรายใหญ่ ทำให้ Supply Chain ภาคส่งออกไทยแข็งแกร่งและเชื่อมโยงกับการลงทุนภายในประเทศและระหว่างประเทศ
              • เป็นสะพานเชื่อมต่อโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาล โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน
              • เติมเต็มช่องว่างทางธุรกิจให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะการแชร์ความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้นขอโครงการ
              • สร้างผู้ส่งออก SMEs รายใหม่ให้ส่งออกได้และแข็งแรงขึ้น เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ที่มีต้นทุนต่ำกว่าในระยะถัดไป
              • สนับสนุนซัพพลายเออร์และผู้ประกอบการทั้งหมดใน Supply Chain การส่งออก
              • สร้างช่องทางในลักษณะ Thai Pavilion นำสินค้าไทยสู่ตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำของโลก

          3. การเร่ง “เสริม” ศักยภาพการแข่งขันของผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในตลาดหลักและตลาดใหม่ (New Frontiers) อย่างสมดุล
              • สนับสนุนให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้ โดยเฉพาะประเทศที่ธุรกิจไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นของโครงการลงทุน
              • ป้องกันความเสี่ยง พร้อมเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการไทย

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK วันนี้ต้องมีจุดยืนที่มีเสน่ห์ เพื่อทำให้องค์กรโตขึ้น ชัดเจนขึ้น และช่วยพัฒนาประเทศได้มากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการช่วยให้นักลงทุนไทยที่มีศักยภาพเข้าไปรับงานในต่างประเทศได้มากขึ้น ควบคู่กับการขยายโครงการลงทุนภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นการจ้างงาน ควบคู่กับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมให้ก้าวข้ามข้อจำกัดต่าง ๆ โดยสร้างนวัตกรรมหรือกระบวนการผลิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน EXIM BANK จะเข้าไปดูแลผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถค้าขายหรือลงทุนระหว่างประเทศได้โดยสะดวกขึ้น สามารถบริหารความเสี่ยงและเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ นำไปสู่การพัฒนาภาคส่งออกและการลงทุนของไทยตลอดทั้ง Supply Chain ของไทยให้เชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลกในยุค New Normal ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนหลักการแห่งความยั่งยืน

          “ผมตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่นายธนาคารยุคใหม่เพื่อการพัฒนา เดินหน้าปรับเปลี่ยน EXIM BANK ขนานใหญ่ให้สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น และเป็นกลไกให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ปรับตัว เปลี่ยนผ่านไปสู่โลกยุคใหม่ได้ เส้นทางใหม่ของ EXIM BANK ครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจนที่จะ ‘ฝันให้ใหญ่’ สู่การเป็น Thailand Development Bank แล้ว ‘ไปให้ไกล’ สู่ New Frontiers โดย ‘ไม่ทิ้งคนตัวเล็ก’ หรือ SMEs เพราะทุกภาคส่วนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงประเทศ” ดร.รักษ์ กล่าว

 
  EXIM BANK ออกมาตรการเยียวยาธุรกิจไทยใน CLMV
จากผลกระทบ COVID-19 และสถานการณ์ภายในเมียนมา
 
            EXIM BANK ออกมาตรการสินเชื่อ เยียวยาผู้ประกอบการ SMEs ไทยใน CLMV จากผลกระทบของ COVID-19 และภาวะเศรษฐกิจ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี พร้อมมาตรการช่วยเหลือลูกค้า EXIM BANK ในตลาดเมียนมา พักชำระหนี้เงินต้นกรณีวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 12 เดือน

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ไต่อันดับขึ้นมาเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 CLMV เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทย รองจากสหรัฐฯ อาเซียนเดิม 5 ประเทศ และจีน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยไปตลาด CLMV มีเหตุสะดุดลงในปี 2563 โดยหดตัวกว่า 11% ขณะที่ในปี 2564 ยังต้องเผชิญกับปัญหารอบด้าน ทั้งวิกฤต COVID-19 ประกอบกับสถานการณ์ภายในเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจส่งออกและลงทุนในตลาดเมียนมา ขณะที่ในภาพรวมกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจและมีความต้องการซื้อสินค้าและบริการของไทยอยู่มาก การเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs มีแหล่งเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ ดังนั้น EXIM BANK จึงออกมาตรการช่วยเหลือดังต่อไปนี้

          มาตรการสินเชื่อ CLMV อุ่นใจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการไทยใน CLMV ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี ใช้เพียงหนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมกับบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันได้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 ทางเว็บไซต์ www.exim.go.th สอบถามได้ที่ EXIM BANK สำนักงานใหญ่และสาขาทุกแห่ง
          มาตรการเยียวยาธุรกิจไทยในเมียนมา สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK สามารถพักชำระหนี้เงินต้นกรณีวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 12 เดือน ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินรวมสูงสุดไม่เกิน 180 วัน โดยแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ EXIM BANK ภายใน 30 กันยายน 2564

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ความไม่สงบภายในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและประเมิน
ผลกระทบต่อลูกค้า ผู้ประกอบการไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากการชำระเงินล่าช้าและการชะลอคำสั่งซื้อของคู่ค้าในเมียนมา EXIM BANK จึงได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านมาตรการต่าง ๆ ตามความจำเป็นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันมีลูกค้า EXIM BANK ที่เป็นผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในตลาดเมียนมาจำนวนกว่า 200 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 5,300 ล้านบาท การออกมาตรการ
ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในเมียนมาจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินและเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้

          นอกจากมาตรการด้านการเงินข้างต้นแล้ว EXIM BANK พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในเมียนมา ทาง Hotline โทร. 0 2271 3700 ต่อ 3009

          “สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งไทยและ CLMV มาตั้งแต่ต้นปี 2563 ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ CLMV เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงในระยะยาว EXIM BANK จึงต้องเร่งออกมาตรการเยียวยาในระยะสั้น ทั้งด้านสินเชื่อและการให้คำปรึกษาแนะนำ เพื่อประคับประคองสภาพคล่องทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย รอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาด CLMV ในระยะถัดไป” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK เดินหน้ามาตรการเชิงรุก ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 “ขั้นสูงสุด”  
            EXIM BANK เดินหน้ามาตรการเชิงรุก ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 “ขั้นสูงสุด”จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ซึ่งขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วและส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ตระหนักถึงความปลอดภัยของพนักงานและครอบครัว ตลอดจนลูกค้า ผู้ประกอบการ หน่วยงานพันธมิตรและสังคม จึงยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่ระดับสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

          1. ทุกฝ่ายงานต้องรายงานบันทึกการเดินทาง (Timeline) พร้อมรายงานสุขภาพ โดยจัดทำ Timeline ทุกวัน สำหรับพนักงาน/บุคคลภายนอกที่จะเข้ามาภายในอาคารสำนักงาน/สาขา เพิ่มเติมจากการใช้งานแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และ “ไทยชนะ” โดยบุคคลภายนอกจะสามารถเข้ามาภายในอาคารสำนักงานได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

          2. พนักงานปฏิบัติงานจากที่บ้าน (Work from Home : WFH) ทั้งหมด ยกเว้นพนักงานที่ต้องให้บริการลูกค้าสามารถเข้ามาปฏิบัติงานที่สำนักงาน/สาขาได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อรองรับการทำธุรกรรมสำคัญอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดชะงัก ทีมปฏิบัติงานสำหรับธุรกรรมสำคัญแบ่งเป็น 2 ทีม ปฏิบัติงานแยกจากกัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดต่อสัมผัส

          3. พนักงานทุกคนยกระดับการป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม และรักษาวินัยการรายงานสถานะสุขภาพประจำวันอย่างเคร่งครัดหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ และงดการจัดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการรวมตัวของคนจำนวนมาก เช่น การอบรม ประชุม งานเลี้ยง การเยี่ยมหรือพบลูกค้าโดยตรง (Face to Face Meeting) โดยใช้ช่องทางออนไลน์ทั้งหมดหรือช่องทางอื่น ๆ ทดแทนตามความเหมาะสม

          4. ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการทำความสะอาดใหญ่ (Big Cleaning) จุดสัมผัสต่าง ๆ รวมทั้งการฉีดพ่นฆ่าเชื้ออาคารเอ็กซิม และทยอยฉีดพ่นทุกสาขาของ EXIM BANK ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ แม้ว่าจะยังไม่พบกรณีพนักงาน/บุคคลภายนอกติดเชื้อโควิด-19 จากการใช้พื้นที่ของ EXIM BANK

          5. ดำเนินมาตรการความปลอดภัยของอาคารในด้านต่าง ๆ อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เช่น การสแกนอุณหภูมิวัดไข้ก่อนเข้าพื้นที่ การกำหนดจุดรับส่งเอกสาร การสแกน UV ฆ่าเชื้อเอกสารการทำความสะอาดจุดสัมผัสที่มีความเสี่ยงด้วยความถี่บ่อยครั้งขึ้น การจำกัดจำนวนผู้ใช้ลิฟต์ในแต่ละครั้ง การงดใช้บริการห้องออกกำลังกาย EXIM Club เป็นต้น

          “EXIM BANK มุ่งเน้นการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบต่อสังคม โดยดูแลสภาพแวดล้อมและกระบวนการทำงานเพื่อให้พนักงานและครอบครัว ตลอดจนลูกค้า ผู้ประกอบการ และบุคคลภายนอกที่มาติดต่อมีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ควบคู่กับการดูแลระบบและกระบวนการทำงานของธนาคารเพื่อให้บริการลูกค้าและผู้มาติดต่อใช้บริการได้ตามปกติ โดยสอดคล้องกับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการป้องกันของธนาคารที่ยกระดับสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความเสี่ยงและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าว
 
  EXIM BANK จัดทำโครงการ CSR สนับสนุนโรงพยาบาลสนามดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่
ทำให้ภาครัฐต้องจัดให้มีโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
สู่สังคมขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในพื้นที่ควบคุมสูงสุดด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลสนาม
ที่รองรับผู้ป่วยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจึงเริ่มทยอยรับผู้ป่วยตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2564 ได้แก่ โรงพยาบาลสนามในสังกัด
กรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ มีความต้องการอุปกรณ์เครื่องใช้จำเป็นจำนวนมากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์
และผู้ป่วย EXIM BANK จึงได้บริจาคของใช้จำเป็นให้แก่กรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อร่วม
สนับสนุนให้โรงพยาบาลสนามในสังกัดกรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์มีความพร้อมในการปฏิบัติงานเพื่อดูแลรักษา
ผู้ป่วย COVID-19 ประกอบด้วย พัดลม ชุด PPE หน้ากากอนามัย เครื่องทำน้ำร้อน/เย็น และน้ำดื่ม เป็นมูลค่ารวม 200,000 บาท ภายใต้
โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน”

          “การสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามในครั้งนี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ EXIM BANK ที่จะร่วมเสริมความพร้อมให้ Superhero ที่แท้จริงของพวกเรา ซึ่งได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทและเสียสละ ช่วยเหลือให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ตลอดจนสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนก้าวผ่านวิกฤตของประเทศไปได้ด้วยดีเหมือนทุกวิกฤตที่ผ่านมา” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK เปิดโครงการตู้ EXIM 1 ปันสุข เยียวยาความเดือดร้อนแก่ประชาชนพื้นที่เขตพญาไท  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดโครงการ “ตู้ EXIM 1 ปันสุข” ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” โดยจัดให้มีตู้อาหารแห้งที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารและเพื่อนพนักงาน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนพญาไท ณ ด้านหน้าและด้านหลัง EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK เยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เยี่ยมคารวะนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ในการนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานของ EXIM BANK ณ กระทรวงการคลัง เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK เยี่ยมคารวะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เยี่ยมคารวะนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมรับฟังแนวนโยบายต่อการดำเนินงานของ EXIM BANK ณ กระทรวงการคลัง เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK เยี่ยมคารวะผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เยี่ยมคารวะ ดร.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมหารือนโยบายการสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุนตามแนวทางการดำเนินงานของ EXIM BANK ที่มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาของประเทศไทย (Thailand Development Bank) ณ สศค. กระทรวงการคลัง เมื่อวันเร็ว ๆ นี้  
  ต้อนรับกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมประชุมและมอบนโยบายการดำเนินงานของ EXIM BANK ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารฝ่ายต่าง ๆ ของ EXIM BANK ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งวันแรก โดยมีผู้บริหารให้การต้อนรับ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ต้อนรับคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ประกอบด้วย นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นายกมลภพ วีระพละ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และนายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs บสย. ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบนโยบายแก่พนักงาน  
 

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบนโยบายการดำเนินงานของ EXIM BANK แก่ผู้บริหารและพนักงานธนาคาร ในงานกรรมการผู้จัดการพบพนักงาน (Town Hall Meeting) ซึ่งจัดขึ้น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ ควบคู่กับการประชุมทางออนไลน์กับผู้บริหารและพนักงานสาขาและสำนักงานผู้แทนในต่างประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้

 
  EXIM BANK มอบน้ำดื่มให้สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
เพื่อใช้บริการประชาชนในสถานกักกันตัวผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19
 
            นายสมควร สมบูรณ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรการ EXIM BANK มอบน้ำดื่มจำนวน 3,000 ขวด ให้แก่นายแพทย์ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” เพื่อใช้บริการประชาชนที่สถานกักกันตัว (Local Quarantine) กรุงเทพมหานคร ซึ่งสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จัดตั้งขึ้นเพื่อคัดกรอง ดูแล และควบคุมผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK มอบน้ำดื่มให้สำนักงานเขตพญาไท
เพื่อใช้ในภารกิจป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19
 
            นายสมควร สมบูรณ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรการ EXIM BANK มอบน้ำดื่มจำนวน 1,200 ขวด ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ให้แก่นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตพญาไท สำหรับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจเชิงรุกป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ณ สำนักงานเขตพญาไท เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  หน้าหลัก  I  Share โลกเศรษฐกิจ  I  เปิดประตูสู่ตลาดใหม่  I  รู้ทันเกมการค้า  I  เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ
เรื่องเล่าจาก CLMV  I  CEO Talk  I แวดวงคู่ค้า  I  แนะนำบริการ  I  สรุปข่าว