EXIM BANK ร่วมเสวนาชี้ทิศทางการส่งออกและโอกาสของ SMEs ในตลาดโลก  
            นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นองค์ปาฐกพิเศษในงานสัมมนาออนไลน์ “ปลุกพลังส่งออก พลิกเศรษฐกิจไทย” ถ่ายภาพร่วมกับ ดร.กีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริหาร น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และวิทยากรจากภาครัฐและเอกชน โดย EXIM BANK ระบุว่าการส่งออกเป็นพระเอกช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในปี 2564 และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ที่จะเริ่มต้นธุรกิจส่งออก EXIM BANK จึงพร้อมร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนภายใต้บทบาทของธนาคารเพื่อการพัฒนา สร้างผู้ส่งออกรายใหม่ด้วยการพัฒนาศักยภาพ SMEs บ่มเพาะความรู้ด้านการส่งออก พร้อมกับต่อยอดสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และเติมทุนเสริมสภาพคล่องทางการเงินช่วยขยายธุรกิจตลอดวงจร ณ อาคารมติชน เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมเสวนาสนับสนุน SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างโอกาสส่งออก ฝ่าวิกฤต COVID-19  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK) พร้อมด้วยนางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และนายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมเสวนาในงานสัมมนาออนไลน์ “จับคู่ กู้เงิน คลายทุกข์ SMEs” ช่วง “จับคู่กู้เงิน ความสำเร็จ อุปสรรค และทางออก” โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นองค์ปาฐกพิเศษ โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกและ Supply Chain ที่เกี่ยวเนื่องเข้าถึงเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขพิเศษ พร้อมบริการครบวงจร ท่ามกลางสถานการณ์การส่งออกไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ในระดับสองหลักในปี 2564 ทางสื่อออนไลน์ในเครือฐานเศรษฐกิจ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมแถลงผลสำเร็จโครงการจับคู่กู้เงินฯ โดยกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานพันธมิตร
พร้อมขยายเวลาสนับสนุน SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน
 
            นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดร.กีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK และนางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานพันธมิตร ร่วมแถลงข่าว “ผลสัมฤทธิ์ โครงการจับคู่กู้เงิน” ซึ่ง EXIM BANK ร่วมดำเนินโครงการ “จับคู่กู้เงิน...สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก” กับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยให้ SMEs ที่ประกอบธุรกิจส่งออกหรืออยู่ใน Value Chain ของธุรกิจส่งออกเข้าถึงเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขพิเศษจาก EXIM BANK ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 7 กรกฎาคม-7 กันยายน 2564 มีผู้ประกอบการได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อ 190 กิจการ วงเงินอนุมัติรวม 1,010 ล้านบาท และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอีกกว่า 271 กิจการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 2,438 ล้านบาท จากผลสำเร็จดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์และ EXIM BANK จึงเห็นชอบขยายระยะเวลาโครงการจนถึง 7 พฤศจิกายน 2564 วงเงินสนับสนุนอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนหลักการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ
ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
 
            นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือ “Sustainable Thailand” นำหลักการลงทุนอย่างรับผิดชอบและหลักการการธนาคารที่มีความรับผิดชอบมาใช้เป็นกรอบในการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมกับผู้บริหารสถาบันการเงินและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 43 แห่ง ได้ลงนามประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าว ในงาน Sustainable Thailand 2021 จัดโดยกระทรวงการคลัง ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ใน CLMV
ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย
 
            นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และกรรมการ EXIM BANK พร้อมด้วยเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กรุงย่างกุ้ง และกรุงฮานอย กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต และนครโฮจิมินห์ อัครราชทูตที่ปรึกษา ณ เวียงจันทน์ และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าร่วมเวทีหารือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและแนวทางส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับกระทรวง
การต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทยในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว
เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์จากกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK จับมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานพันธมิตร พัฒนาภาคเกษตรและสนับสนุนเกษตรกรไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลก  
            นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กรรมการ EXIM BANK
พร้อมด้วย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และผู้บริหารหน่วยงานพันธมิตร อีก 6 แห่ง ประกอบด้วย กรมปศุสัตว์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน
ให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) โดยมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนาม ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ EXIM BANK พร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้
การจัดฝึกอบรม และการสนับสนุนเงินทุนและเครื่องมือทางการเงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร รวมทั้งการขยายเครือข่าย
ธุรกิจให้เกษตรกรไทยเข้าสู่เวทีการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
 
  EXIM BANK เปิดตัวแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ “EXIM Thailand Pavilion”
พร้อมบริการครบวงจร สร้าง “ผู้ส่งออกป้ายแดง” รุกตลาดโลกยุค Next Normal
 
            EXIM BANK เร่งสร้างผู้ส่งออกรายใหม่เข้าสู่ตลาดโลก ขณะที่การค้าขายภายในประเทศขยายตัวยาก โดยเปิดตัว “EXIM Thailand Pavilion” ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ระดับโลก “Alibaba.com” ฟรี! ค่าธรรมเนียม 1 ปีเต็ม แถมพี่เลี้ยงช่วยบริหารจัดการและประชาสัมพันธ์สินค้า ยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุค Next Normal

          ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
EXIM BANK กล่าวเปิดโครงการแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ “EXIM Thailand Pavilion” บน Alibaba.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม
การค้าออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ว่า COVID-19 ได้เร่งการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้บริโภคให้
เชื่อมโยงสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดและครอบคลุมอย่างกว้างขวางทั่วโลก ทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตและขยายตัว
อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า มูลค่าการค้าจะสูงถึง 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้และ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 เทียบกับ
3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 และ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 EXIM BANK จึงริเริ่มให้มี “EXIM Thailand
Pavilion”
เป็นแพลตฟอร์มใหม่ของการค้าออนไลน์ที่ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงได้ เป็นการช่วยย่นระยะทางและระยะเวลาการ
ติดต่อธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อในต่างประเทศ ช่วยสร้างผู้ส่งออกรายใหม่หรือผู้ส่งออกป้ายแดงของไทยได้มากขึ้น
กว่าจำนวนที่มีอยู่ในปัจจุบันเพียงไม่ถึง 1% จากจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ 3 ล้านราย โดยมี EXIM BANK ให้การสนับสนุนด้าน
ข้อมูลความรู้ เงินทุน ตลอดจนเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกรายใหม่สามารถค้าขาย
ในทุกตลาดอย่างมั่นใจ มีความพร้อมด้านสภาพคล่องและได้รับความคุ้มครองกรณีไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ
โดยเฉพาะคู่ค้ารายใหม่ที่เพิ่งติดต่อและตกลงค้าขายระหว่างกันทางออนไลน์

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากจำนวนผู้ส่งออก SMEs ไทยที่มีไม่ถึง 1% ของทั้งระบบ ขณะที่ผู้ส่งออกไทยที่ค้าขายออนไลน์ระหว่างประเทศก็มีจำนวนน้อยมาก เทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน อาทิ เวียดนาม มีจำนวนผู้ส่งออก SMEs สูงถึง 10% ของ SMEs ทั้งประเทศเวียดนาม นับเป็นสัดส่วนสูงกว่าไทยถึง 10 เท่า อีกทั้ง 30% ของ SMEs เวียดนามค้าขายออนไลน์ระหว่างประเทศแล้ว จึงเห็นได้ว่า การค้าออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ยังคงดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะในวิกฤต COVID-19 ประกอบกับการเกิดปรากฏการณ์อภิมหาการลาออก (Great Resignation) และคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะประชากร Gen Z วัย 15-21 ปีในปัจจุบัน ต้องการเป็นเจ้าของกิจการ ทำให้การค้าออนไลน์ของโลกในปี 2563 ขยายตัวอย่างรวดเร็วถึง 24% ขณะที่การค้าโลกหดตัว 9% ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยทางออนไลน์ต่อยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยรวมเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 12% ในปี 2562 เป็น 23% ในปี 2563 และคาดว่าจะสูงถึง 30% ในปี 2568 จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จะเร่งรุกตลาดส่งออกออนไลน์ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคและการใช้ชีวิตในรูปแบบวิถีใหม่

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ยังค้าขายออนไลน์ในประเทศเป็นหลัก ทั้งที่ตลาดในประเทศมีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งขนาดตลาดที่ไม่ใหญ่ด้วยประชากรเพียง 66 ล้านคน คิดเป็น 10% ของอาเซียนและ 0.9% ของโลก ในมิติขนาดเศรษฐกิจ ไทยมีขนาดเพียง 16% ของอาเซียนหรือ 0.6% ของโลก อีกทั้งยังเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยไม่คึกคักเหมือนในอดีต ในทางกลับกัน ตลาดโลกมีความน่าสนใจกว่ามาก แต่การค้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นทางออนไลน์ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 24% ขณะที่การค้าโลกหดตัวรุนแรงถึง 9% ในปี 2563 ตัวอย่างเช่น จีนมีมูลค่าตลาดการค้าออนไลน์ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สหรัฐอเมริกา 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และอินเดีย 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผู้ประกอบการไทยจึงไม่ควรมองข้ามโอกาสในการค้าขายให้แก่ผู้ซื้อในประเทศต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นการกระจายตลาด สร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ และลดการพึ่งพาตลาดในประเทศที่ขยายตัวได้ยาก

          EXIM BANK จึงร่วมกับ Alibaba จัดทำโครงการ “EXIM Thailand Pavilion” ขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีช่องทางนำสินค้าไปขายบนแพลตฟอร์มการค้าระดับโลก ภายใต้บัญชีสมาชิกของ EXIM BANK เมื่อมีผู้ซื้อจากต่างประเทศติดต่อให้ความสนใจสินค้า ระบบจะทำการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบผ่านช่องทาง SMS และ E-mail ทันที โดย EXIM BANK เป็นผู้สนับสนุนค่าสมาชิก พร้อมจัดให้มีทีมงานบริหารร้านค้าและทำการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ฟรี! 1 ปีเต็ม นอกจากนี้ EXIM Thailand Pavilion ยังเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัทจัดจำหน่ายสินค้า (Trading) และผู้ให้บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง (Fulfillment) ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการของไทยเทียบเท่ามาตรฐานสากลโดยเชื่อมโยงกันภายใต้ Supply Chain ของ E-Commerce โลก

          “EXIM Thailand Pavilion เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ EXIM BANK ริเริ่มและพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างทางรอดให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs มีช่องทางขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก Alibaba.com สามารถเข้าถึงผู้ซื้อ (Active Buyers) จำนวนกว่า 26 ล้านราย เน้นการขายส่งระหว่างผู้ผลิตกับธุรกิจต่าง ๆ เฉลี่ยต่อวันมากกว่า 400,000 รายการ ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสเข้าไปอยู่ใน Supply Chain ของ E-Commerce โลก สอดรับกับเมกะเทรนด์ของโลกที่เรียกว่า Next Normal ในระยะถัดไป โดย EXIM BANK จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อเตรียมความพร้อมให้ SMEs ไทยสามารถเริ่มต้นส่งออกครั้งแรกบน EXIM Thailand Pavilion และขยายการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ช่วยสร้างรายได้และชื่อเสียงให้แก่สินค้าไทยในเวทีการค้าโลก” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK ชี้ COVID-19 ทำให้การค้าโลกหดตัว สวนทางการค้าออนไลน์โตก้าวกระโดด
ผู้ส่งออก SMEs ต้องพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ความรู้ เงินทุน และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง
 
            ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ EXIM BANK กล่าวเปิดงานสัมมนาออนไลน์ “Digital พลิกโฉมการค้าโลก”จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับ SME D Bank เมื่อเร็ว ๆ นี้
ว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนแปลงไปจากวิถีปกติ
และเชื่อมโยงการใช้ชีวิตกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การค้าออนไลน์ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเติบโตขึ้น
อย่างก้าวกระโดด ผู้ประกอบการไทยที่ปรับตัวได้ทันจึงเข้าถึงโอกาสนี้ได้เร็ว และมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจ
ดิจิทัลอย่างชัดเจนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐและภาคเอกชนจึงต้องเร่งบูรณาการความร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ
ไทย โดยเฉพาะ SMEs สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค้าขายอย่างไร้พรมแดนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างคล่องตัวและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอย่างมั่นใจ ด้วยความพร้อมด้านข้อมูลข่าวสาร
เงินทุน และเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ในปี 2563 เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกต้องเผชิญวิกฤต COVID-19 จนทำให้ GDP โลกหดตัว 3.2% ขณะที่การค้าสินค้าและบริการของโลกหดตัว 9% และ 15% ตามลำดับ แต่การค้าออนไลน์ (E-Commerce) ของโลกกลับขยายตัวกว่า 20% จาก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 เป็น 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และคาดว่าจะมีมูลค่า 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 นั่นหมายถึง เทคโนโลยีดิจิทัลได้มีส่วนช่วยพยุงหรือรองรับเศรษฐกิจในช่วงขาลง ขณะเดียวกันในช่วงขาขึ้นก็เป็นเสมือนสปริงบอร์ด เร่งให้ธุรกิจเติบโตได้แบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป มากกว่า 50% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายออนไลน์บ่อยกว่าที่ผ่านมา และมากกว่า 40% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มรับชมสื่อบันเทิงออนไลน์บ่อยกว่าเดิม เพราะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว สำหรับสินค้าและบริการดิจิทัลที่มีแนวโน้มขยายตัวดีในปัจจุบัน อาทิ อุตสาหกรรมเกม สื่อบันเทิงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Netflix สินค้าเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ต้องเตรียมพร้อมที่จะเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่ โดยขจัด “ความกลัว” หรือ “ความไม่กล้าเสี่ยง” ออกไป แต่ต้องมั่นใจที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสถาบันการเงิน อาทิ EXIM BANK ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเสริมธุรกิจให้แข็งแรง ทั้งด้านเทคโนโลยี ความรู้ เงินทุน และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ EXIM BANK มีบริการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน ประกันการส่งออก และระบบดิจิทัล อาทิ ระบบบริหารจัดการความรู้และประเมินความพร้อมด้านการส่งออก (Thailand Export Readiness Assessment and Knowledge Management : TERAK) และ Thailand E-commerce Pavilion

          “ธุรกิจ SMEs มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยสูงมาก โดยมีสัดส่วนต่อ GDP รวมทั้งประเทศกว่า 30% ทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมากกว่า 12 ล้านคน ดังนั้น การสนับสนุนให้ SMEs สามารถขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้แม้ในภาวะวิกฤต รวมถึงขยายธุรกิจให้เติบโตได้ท่ามกลางโอกาสที่เกิดขึ้นในโลกวิถีใหม่ (New Normal) จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและเป็นรากฐานการพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยตอบสนองต่อเทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคยุคใหม่และเมกะเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อโลกเป็นวงกว้างในอนาคตข้างหน้า” ดร.รักษ์ กล่าว

          ทั้งนี้ นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ SME D Bank ได้ร่วมกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสองธนาคารในครั้งนี้ จากนั้น ช่วงเช้าจะเป็นการสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “Digital พลิกโฉมการค้าโลก” ชี้ประเด็นด้านโอกาสและความจำเป็นเพื่อเตรียมตัวรับสึนามิเทคโนโลยี โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เครือไทย
โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Banking นวัตกรรมการเงินและการลงทุน นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาด ดอท คอม กรุ๊ป จำกัด และนางสาวกรณษา ปานสุวรรณ Head of Government Partnership Relations บริษัท ลาซาด้า จำกัด ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) หัวข้อ โพสต์ง่ายขายดีกับ “T-GoodTech” “Thehubthailand.biz” และ “Alibaba.com” โดยให้ผู้ประกอบการได้ทดลองนำสินค้าวางขายจริงบนแพลตฟอร์มออนไลน์
 
  EXIM BANK สนับสนุนกลุ่มบริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ ผู้ให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเล
รุกตลาดตะวันออกกลาง เสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
 
            EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินจำนวน 100 ล้านบาท ให้กลุ่มบริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ ในเครือบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) นำไปใช้เสริมสภาพคล่องธุรกิจบริการงานนอกชายฝั่ง วิศวกรรมโยธาใต้น้ำ ตามภารกิจสร้างอุตสาหกรรมของประเทศที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและเสริมศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) (เมอร์เมด) ในเครือบริษัท TTA ผู้ให้บริการงานนอกชายฝั่งและวิศวกรรมโยธาใต้น้ำมายาวนานกว่า 30 ปี ให้พร้อมรุกตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

          กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า EXIM BANK ให้การสนับสนุนกลุ่มบริษัทเมอร์เมดภายใต้มาตรการ “สินเชื่อ Global อุ่นใจ”
ซึ่งเป็นสินเชื่อระยะยาว สูงสุด 5 ปี เพื่อให้บริษัทใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการให้บริการระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม
ตะวันออกกลางได้อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบริษัทเมอร์เมดเป็นผู้ประกอบการไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทน้ำมัน
ชั้นนำทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง จะนำไปใช้บริหารจัดการกองเรือสนับสนุนปฏิบัติงานนอกชายฝั่ง 3 ลำ
ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อดำเนินงานวิศวกรรมใต้ทะเลในทุกระดับน้ำซึ่งมีความซับซ้อนและท้าทาย รวมทั้งเป็นการสนับสนุนธุรกิจ
อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันท่ามกลางการแพร่ระบาด COVID-19

         “การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมปรับปรุงการปฏิบัติงานธุรกิจบริการด้านพาณิชยนาวี รุกตลาด New Frontier เพิ่มมากขึ้น โดยสอดคล้องกับภารกิจของ EXIM BANK ในการซ่อม สร้าง เสริมผู้ประกอบการทุกระดับในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าและบริการของภาคธุรกิจและผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคต” ดร.รักษ์กล่าว
 
  EXIM BANK ประชุมร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าในเอเชีย
สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยั่งยืน
 
           ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าร่วมการประชุมธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าในเอเชีย (Asian EXIM Banks Forum) ประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ รวมทั้ง EXIM BANK ของไทย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “RCEP : มิติใหม่เพื่อการบูรณาการในภูมิภาค” เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในภูมิภาคภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) เพื่อการพัฒนาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยั่งยืน ผ่านระบบการประชุมออนไลน์
จัดโดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM) เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมประชุมกลุ่มความร่วมมือองค์กรรับประกันภาครัฐในเอเชีย-แปซิฟิก  
           ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหาร EXIM BANK ร่วมประชุมกลุ่มความร่วมมือองค์กรรับประกันภาครัฐในเอเชีย-แปซิฟิก (Regional Co-operation Group : RCG) ครั้งที่ 72 จัดโดยบริษัทรับประกันการส่งออกแห่งประเทศจีน (China Export & Credit Insurance Corporation : Sinosure) ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการจากผลกระทบของการแพร่ระบาด COVID-19 รวมทั้งมุมมองต่อกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จับมือ สพพ. จัดสัมมนา
ส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและที่เกี่ยวเนื่องของไทย ขยายตลาดสู่ CLMV
 
           ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ร่วมเป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ “เจาะโอกาสการพัฒนาโครงสร้าง
พื้นฐานในประเทศเพื่อนบ้าน” จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ EXIM BANK และ สพพ. เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและที่เกี่ยวเนื่องไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยมีหัวหน้าสำนักงานผู้แทนของ EXIM BANK ใน CLMV ให้ข้อมูลเศรษฐกิจ โอกาสในการดำเนินธุรกิจใน CLMV และแนวทางสนับสนุนของ EXIM BANK เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมบรรยายในหลักสูตรอบรมผู้ประกอบการ SMEs
เสนอแนะแนวทางประกอบธุรกิจส่งออกให้อยู่รอดจากวิกฤต COVID-19
 
           ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2564 และแนวทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs เช็กสถานะทางธุรกิจและบริหารการเงิน เพื่อดำเนินธุรกิจส่งออกให้เติบโตและอยู่รอดจากวิกฤต COVID-19 ในการอบรมหลักสูตร “ผู้นำธุรกิจในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง (DIProm Genius Transformation : DGT)” หัวข้อ “ก้าวต่อไปของธุรกิจกับการส่งออก” จัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ในรูปแบบออนไลน์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK แนะ SMEs บริหารสภาพคล่องธุรกิจฝ่าวิกฤตและก้าวสู่ Next Normal อย่างยั่งยืน  
           ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับแนวทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs เช็กสถานะทางธุรกิจและบริหารการเงินอย่างยั่งยืน โดย EXIM BANK มีบริการสินเชื่อ ประกันการส่งออก พร้อมคำปรึกษาแนะนำ เพื่อช่วยให้ SMEs สามารถปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุค Next Normal หลังสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 คลี่คลาย ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ในงานสัมมนา Thailand Survival Post COVID-19 หัวข้อ “ฟื้นไข้ SMEs…ฝ่าวิกฤตโควิด” ช่วง “รักษาสภาพคล่อง SMEs” พร้อมกับนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน จัดโดย Nation TV ในรูปแบบ Virtual Forum เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จับมือ ส.อ.ท. ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สนับสนุนเงินทุนและประกันการส่งออกให้ SMEs ในเครือข่ายธุรกิจของผู้ส่งออก
 
           นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยนางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ SME ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (กรุงศรี) และนายคาซึฮิโระ โนซากิ ผู้บริหารสายงานธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น 1 กรุงศรี แถลงข่าวความร่วมมือเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ SMEs ใน Supply Chain ของกลุ่มธุรกิจที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ด้วยบริการ “สินเชื่อเครือข่ายธุรกิจครบวงจรของ EXIM BANK (EXIM Supply Chain Financing Solution)” วงเงินกู้สูงสุด 25% ของยอดขายรวมปีล่าสุด ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เพียง Invoice ยื่นผ่านระบบธุรกรรมออนไลน์ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก ส.อ.ท. อาทิ ฟรี! กรมธรรม์ประกันการส่งออก EXIM for Small Biz คุ้มครองการส่งออก 1 รายผู้ซื้อ วงเงินสูงสุด 300,000 บาท เพื่อให้ SMEs ไทยเติบโตไปด้วยกันกับ Supply Chain ของผู้ส่งออกในตลาดโลก ผ่านทางระบบออนไลน์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  ครัวกลางชุมชนคนอารีย์  
  EXIM BANK จัดกิจกรรม “ครัวกลางชุมชนคนอารีย์ by EXIM”
ส่งมอบอาหารปรุงสุกรวมกว่า 10,000 กล่อง
บรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตลอดเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564
 
        ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ EXIM BANK ร่วมกับกรรมการ EXIM BANK ประกอบด้วย นายฉันทานนท์ วรรณเขจร และนายคณิทธิ์ สว่างวโรรส อดีตกรรมการ EXIM BANK ประกอบด้วย นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ และ ดร.มาส ตันหยงมาศ พร้อมด้วย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ตลอดจนผู้บริหารและพนักงาน ประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ เพื่อส่งมอบพร้อมขนม และเครื่องดื่มรวม 2,200 กล่อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า พันธมิตร ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา ให้แก่ผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 และกักตัวในชุมชน รวมทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ในชุมชนเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง 311 ชุมชนเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง 312 เขตหลักสี่ ชุมชนซอยสวนรื่น ชุมชนริมคลองบางซื่อ เขตบางซื่อ ชุมชนริมคลองสามเสน ชุมชนหลังวัดมักกะสัน ชุมชนริมทางรถไฟหลังโรงพยาบาลเดชา เขตราชเทวี ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ โรงเรียนการไปรษณีย์ และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เขตหลักสี่ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ วัดมัชฌันติการาม เขตบางซื่อ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการเจ้าพระยา เขตราชเทวี และแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโรงพยาบาลรามาธิบดี ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ “ครัวกลางชุมชนคนอารีย์ by EXIM” ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” จัดขึ้นทั้งหมด 9 ครั้ง ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม-25 กันยายน 2564 ส่งมอบอาหารกล่องปรุงสุกใหม่ทั้งสิ้นกว่า 10,000 กล่อง บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในชุมชน โรงพยาบาล ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ และผ่านมูลนิธิต่าง ๆ  
  EXIM BANK ร่วมกับพันธมิตรส่งมอบอาหารกล่องปรุงสุกจากโรงครัว CSR
บรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
 
        นายสุวัฒน์ กมลพนัส กรรมการ EXIM BANK และนายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำผู้บริหารและพนักงาน พร้อมด้วยนายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) และนายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) ซึ่งร่วมสนับสนุนข้าวสาร ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม ประกอบอาหารปรุงสุกใหม่เพื่อส่งมอบ รวมทั้งสิ้น 850 กล่อง ให้แก่ผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 และกักตัวในชุมชน ได้แก่ ชุมชนเคหะสถานครูไทย ชุมชนปิ่นเจริญ 2 โรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเขตดินแดง ศูนย์กีฬาเวสน์ 2 และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อสำหรับผู้ป่วย COVID-19 พิการทางสายตา ณ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ในกิจกรรม “ครัวกลางชุมชนคนอารีย์ by EXIM” ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ส่งมอบอาหารปรุงสุกจากโรงครัว CSR อย่างต่อเนื่อง
บรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
 
        นางสาวเกตสุดา สุประดิษฐ์ กรรมการ EXIM BANK และนางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำผู้บริหารและพนักงาน ร่วมประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ เพื่อส่งมอบพร้อมขนม เครื่องดื่ม และอาหารกล่องรวม 900 กล่อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า พันธมิตร ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา ให้แก่ผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 และกักตัวในชุมชน รวมทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ในชุมชนซอยแม่เนี้ยวแยก 3 เขตดินแดง ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา เขตหลักสี่ ชุมชนเลียบคูนายกิม 3 ชุมชนพรหมสัมฤทธิ์ และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตดอนเมือง ในกิจกรรม “ครัวกลางชุมชนคนอารีย์ by EXIM” ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จับมือพันธมิตรส่งมอบอาหารปรุงสุกจากโรงครัว CSR
บรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID -19
 
        ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการ
ผู้จัดการ EXIM BANK นำผู้บริหารและพนักงาน พร้อมด้วยนายยงยุทธ เสฏฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ด้านการบริหารการเงินและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนปลาทูน่ากระป๋อง และนายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนข้าวสาร ซอสปรุงรส ขนมขบเคี้ยว และน้ำดื่ม ร่วมประกอบอาหารปรุงสุกใหม่รวมทั้งสิ้น 800 กล่อง ส่งมอบพร้อมขนมและเครื่องดื่มให้แก่ผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 และกักตัวในชุมชน รวมทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตสายไหม ณ วัดราษฎร์นิยมธรรม ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อสำหรับผู้ป่วย COVID-19 พิการทางสายตา ณ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ โรงพยาบาลภูมิพล ศูนย์บริการฉีดวัคซีน KU สู้ COVID-19 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกลุ่มสายไหมต้องรอด ในกิจกรรม “ครัวกลางชุมชนคนอารีย์ by EXIM” ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK สนับสนุนอาหารแห้งและและน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
ผ่านศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น)
 
           นางวันเพ็ญ อรรชุนเดชะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มให้แก่นายไชยา โชติวรรธกวณิช ผู้อำนวยการศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในชุมชนและบริเวณใกล้เคียง ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  หน้าหลัก  I  Share โลกเศรษฐกิจ  I  เปิดประตูสู่ตลาดใหม่  I  ส่องเทรนด์โลก  I  เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ
เรื่องเล่าจาก CLMV  I  CEO Talk  I แวดวงคู่ค้า  I  แนะนำบริการ  I  สรุปข่าว