EXIM BANK รับรางวัล Thailand Top CEO of the Year 2022  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK รับรางวัล “Thailand Top CEO of the Year 2022” ประเภท Rising Star จากนายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ในงาน “Thailand Top CEO of the Year 2022” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยนิตยสาร Business+ ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรชั้นนำที่มีผลงานในการขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรเป็นที่ประจักษ์และโดดเด่น ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จับมือ ธปท. และหน่วยงานพันธมิตร
ร่วมใจแก้หนี้ พร้อมเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการไทยหลังวิกฤตโควิด-19
 
            นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมด้วย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ธปท. สถาบันการเงิน และพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีเปิดงาน "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้" มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังและสถาบันการเงิน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางให้สามารถชำระหนี้ต่อไปได้ตามความสามารถ รวมทั้งเข้าถึงสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 พร้อมให้คำปรึกษาทางด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธปท. เมื่อเร็ว ๆ นี้

          ทั้งนี้ EXIM BANK ร่วมให้บริการแก้ไขหนี้เดิม และให้สินเชื่อเพิ่มเติม พร้อมให้คำแนะนำทางการเงินรวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ ตามภารกิจซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผู้ประกอบการสามารถลงทะเบียนแก้หนี้ออนไลน์ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2565 และเข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจรในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และหาดใหญ่ ระหว่างพฤศจิกายน 2565-มกราคม 2566
 
  EXIM BANK ขานรับกระทรวงการคลัง กระตุ้นธุรกิจไทยเชื่อมโยงตลาดโลกยุค Next Normal
ชี้เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญที่พร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสู่อนาคต
 
            นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา “Vietnam in Focus
2022 : The Dream Journey” เพื่อให้ข้อมูลความรู้ด้านโอกาสการค้าการลงทุน รวมถึงวิธีบริหารความเสี่ยงด้านการค้าและ
การลงทุนระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม พร้อมด้วยนายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมี ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร
EXIM BANK ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล กรรมการ EXIM BANK นายสุวัฒน์ กมลพนัส กรรมการ EXIM BANK และ
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้


          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในโลกยุค Next Normal หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย โอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจเริ่มกลับมาพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในตลาดใหม่อย่างเวียดนามที่มาแรงด้วยจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตสูงเกือบ 7% ต่อปี โดยเวียดนามเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทยรองจากสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น และเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญอันดับ 10 การค้าระหว่างไทยกับเวียดนามมีพัฒนาการดีอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2535 เป็นราว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน หรือขยายตัวเกือบ 20% ต่อปี นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามยังมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งไทยซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม ผู้ประกอบการไทยจึงควรเร่งขยายความร่วมมือกับเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายระหว่างประเทศหรือลงทุนร่วมกัน

          นายอาคม กล่าวว่า รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในมิติการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งในมิติการเงินการคลัง ผ่านการสนับสนุนของ EXIM BANK ที่มุ่งเน้นการทำหน้าที่ในเชิงรุกสู่บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เครื่องมือทางการเงิน และเครือข่ายพันธมิตรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดการค้าโลก ก้าวข้ามอุปสรรค ความท้าทาย และความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ พร้อมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อนาคต เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG Economy) ของไทย เชื่อมโยงกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคในกรอบความร่วมมือภายใต้อาเซียนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ปัจจุบันหัวใจสำคัญของการแข่งขันในตลาดโลกยุค Next Normal ได้แก่ ความสามารถ
ในการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย EXIM BANK จึงพร้อมทำหน้าที่มากกว่าธนาคาร (Beyond Banking) ช่วยให้ผู้ประกอบการไทย
ทุกระดับ ตั้งแต่ Start-up ไปจนถึงผู้ประกอบการทั่วไปสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนและปัจจัยท้าทายทั้ง
ในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย EXIM BANK มีเครื่องมือทางการเงินครบวงจร ควบคู่กับข้อมูลความรู้และเครือข่าย
พันธมิตรที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างมั่นใจ ทั้งในตลาด
ใหม่และตลาดเดิม โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งเดิมเคยอยู่ในฐานะ “คู่แข่ง” ปัจจุบันได้พลิกโฉมเป็น “คู่ค้าสำคัญ” ที่ไทยพึ่งพาและพึ่งพิง
มากขึ้น โดยเวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 5 ของไทยมาตั้งแต่ปี 2560 ไต่ระดับขึ้นมาจากอันดับ 15 ในปี 2555 ขณะที่เวียดนาม
เป็นแหล่งลงทุนสำคัญอันดับ 4 ของไทยในปัจจุบัน ไต่อันดับจากอันดับ 10 เมื่อ 10 ปีก่อน

          ดร.รักษ์ กล่าวต่อไปว่า EXIM BANK พร้อมเสริมอาวุธให้ผู้ประกอบการไทยเพิ่มพูนความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับ
ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศได้อย่างรอบด้าน ประกอบด้วยเครื่องมือปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อาทิ การทำ
สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) หรือการซื้อประกันค่าเงิน (Foreign Exchange
Option) เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการเมือง ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า ผู้ซื้อไม่
ชำระเงินค่าสินค้า รัฐบาลประเทศผู้ซื้อควบคุมการโอนเงิน ห้ามนำเข้าสินค้า เกิดสงคราม หรือจลาจล EXIM BANK จะจ่ายค่าสินไหม
ทดแทน รวมทั้งติดตามหนี้ให้ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยหมดกังวลกับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น พร้อมทุ่มเทเวลาและทรัพยากร
ไปกับการพัฒนาสินค้าและบริการให้สามารถเติมเต็มห่วงโซ่การผลิตของเวียดนามได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ
และเป็นที่ต้องการของเวียดนาม อาทิ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานสะอาด และอาหารแห่งอนาคต

          ที่ผ่านมา EXIM BANK มุ่งเน้นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปอยู่ใน Supply Chain ธุรกิจ BCG ของเวียดนาม เนื่องจาก
ศักยภาพของผู้ประกอบการไทยสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของเวียดนามมีอัตราสูงตามการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมและการเติบโตของสังคมเมือง ปัจจุบัน
โครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK คิดเป็นมูลค่ากว่า 17,300 ล้านบาทในหลากหลายธุรกิจ อาทิ
โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจลดการ
ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อม ก้าวทันกระแสเศรษฐกิจสีเขียวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
เช่น สินเชื่อ EXIM Kill Bill by Biz Transformation วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.00% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด
7 ปี และสินเชื่อ Solar Orchestra สำหรับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา
(Solar Rooftop) วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าโครงการลงทุน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี ผู้กู้จะได้
รับสิทธิการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจรและสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี 50% ของเงินลงทุนเป็นระยะเวลา 3 ปีจาก
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

          สำหรับผลการดำเนินงานของ EXIM BANK ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศทั้งสิ้น 67,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,271 ล้านบาท หรือ 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยสยายปีกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตลาดใหม่ (New Frontiers) อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนแรกปี 2565 EXIM BANK มีสินเชื่อคงค้าง CLMV และ New Frontiers จำนวน 53,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,804 ล้านบาทหรือ 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสินเชื่อคงค้างในเวียดนาม 14,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.4%

          “โอกาสของผู้ประกอบการไทยยังมีอยู่อีกมากในตลาดใหม่ โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งเป็นพันธมิตรกับนานาประเทศทั้งในมิติการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งมี FTA มากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ครอบคลุมกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติมเต็ม Supply Chain ของเวียดนามและของโลก EXIM BANK จึงพร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างมั่นใจ โดยอาจเริ่มต้นจากเวียดนาม และรุกคืบไปยังตลาดการค้าอื่นต่อไป ช่วยต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาคและโลกโดยรวม” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK ฉลองความสำเร็จออกพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด
ตอกย้ำบทบาทสู่ธนาคารเพื่อการพัฒนาและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
 
            นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม EXIM BANK ร่วมยินดี
และถ่ายภาพร่วมกับ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายโกสินทร์ พึงโสภณ ผู้เชี่ยวชาญ
ภาคการเงิน ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและความร่วมมือในภูมิภาค ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB)
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) นางสาวปภากร รัตนเศรษฐ รองผู้อำนวยการ กลุ่มลงทุนและบริหารการเงิน ธนาคารออมสิน ในงานแถลงข่าว
ฉลองความสำเร็จของ EXIM BANK ในการเสนอขายพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond) 2 รุ่น มูลค่ารวม 5,000
ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนสินเชื่อให้แก่โครงการพลังงานสะอาด โดยมี ADB เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำกรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Framework) ธนาคารออมสินเป็น
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจำหน่ายพันธบัตร และ
นายทะเบียน พันธบัตรทั้ง 2 รุ่นของ EXIM BANK ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนชั้นนำและสามารถระดมทุนได้ใน
อัตราดอกเบี้ยที่ดีในช่วงที่ตลาดเงินมีความผันผวนและดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเป็นขาขึ้น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่
เมื่อเร็ว ๆ นี้


          พันธบัตรแบ่งเป็น “พันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568” (พันธบัตรชุดที่ 1) อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุพันธบัตร จำนวน 3 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท และ “พันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569” (พันธบัตรชุดที่ 2) อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยลอยตัว Compounded THOR +0.34% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุพันธบัตร จำนวน 2 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท

          EXIM BANK นับเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งแรกที่จัดตั้งกรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน และออกพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อมที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR (Thai Overnight Repurchase) เป็นรายแรกของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ตามเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดย EXIM BANK มีแผนจะระดมทุนภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) เชื่อมโยงการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งสัตยาบันที่รัฐบาลไทยร่วมให้ไว้ในที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) ว่าจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net-zero Emissions) ภายในปี 2608

          ที่ผ่านมา EXIM BANK ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ธุรกิจเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคาร หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท และในอนาคต EXIM BANK ตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจ BCG เป็น 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 เพื่อร่วมกับประชาคมโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ โดย EXIM BANK จะทำงานอย่างใกล้ชิดและแข็งขันร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและพัฒนาระบบ Zero Waste นำกากของเสียจากโรงงานกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต หมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้าง Supply Chain ของไทยเชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลกที่สะอาดและนำไปสู่การพัฒนาของทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน
 
  EXIM BANK จับมือ วว. และ บจก. รักบ้านเกิด ให้ความรู้ด้านการบริหารเงินและพัฒนานวัตกรรม
สินค้าเกษตรวิสาหกิจชุมชนเพื่อส่งออกและแข่งขันได้ในยุค Next Normal อย่างยั่งยืน
 
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม (CG & CSR) และกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วย ดร.เพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ และนายอนุสรณ์ เอมกมล กรรมการ CG & CSR EXIM BANK นำผู้บริหารและพนักงานร่วมโครงการ CSR “EXIM เพื่อการเงินในชุมชน” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสร้างผู้ส่งออกวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดน่าน เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยกิจกรรมแรกเป็นการอบรมให้ความรู้ “โอกาสทองของสินค้าชุมชนที่ตอบโจทย์โลกยุค Next Normal” แก่กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน เครื่องเงิน ผ้าทอ และกาแฟ จำนวนกว่า 20 คน ณ บริษัท ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จำกัด อำเภอปัว จังหวัดน่าน พร้อมมอบวงเงินสินเชื่อเพื่อผู้ส่งออกป้ายแดง และวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (FX Forward Contract) ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้นายสมชาย รุ่งรชตะวาณิช ประธาน และนางพิมพร รุ่งรชตะวาณิช รองประธาน บริษัท ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จำกัด ทายาทธุรกิจรุ่นลูกที่สานต่อภูมิปัญญาและวัฒนธรรมชาติพันธุ์อิวเมี่ยนหรือเย้าผ่านเครื่องประดับเงินซึ่งส่งออกสู่ตลาดโลกมานานกว่า 30 ปี โดยมี
นางปริยะดา วิสุทธิแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม และนายจิรวัฒน์ วัฒนบุตร ผู้อำนวยการกองบริการธุรกิจนวัตกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมให้ความรู้ด้านการใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับสินค้าชุมชนและพัฒนารูปแบบให้สามารถส่งออกและแข่งขันในตลาดโลก

          จากนั้น EXIM BANK ร่วมกับบริษัท รักบ้านเกิด จำกัด ดำเนินโครงการ CSR “EXIM เพื่อสิ่งแวดล้อม” ณ Cocoa Valley
Resort อำเภอปัว จังหวัดน่าน โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเสวนากับนางสาวจารุวรรณ จิณเสน
กรรมการผู้จัดการ Cocoa Valley Resort นำเสนอแนวคิดการบริหารจัดการภาพรวมธุรกิจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น
ให้ตอบโจทย์ชุมชนอย่างยั่งยืนให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน อาทิ เส้นผัดไทยสำเร็จรูป น้ำพริก ผ้าทอผ้าปัก กาละแม
น้ำผึ้ง เป็นต้น และร่วม Workshop เรียนรู้วิธีการนำเปลือกโกโก้มาทำถ่านชีวมวล เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ
แปลงเกษตรอย่างยั่งยืนให้ปลอดวัสดุเหลือใช้ (Zero Waste Farm) นำโดยนายประธาน พยอม นักวิชาการพลังงานชำนาญการ
สำนักงานพลังงาน จังหวัดน่าน ในโอกาสนี้ EXIM BANK ได้มอบวงเงินสินเชื่อผู้ส่งออกป้ายแดงให้แก่บริษัท โกโก้ วัลเล่ย์ กรุ๊ป จำกัด เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังตลาดโลก
 
  EXIM BANK ร่วมกับลูกค้าเสริมสร้างโอกาสการเรียนรู้ นักเรียนโรงเรียนภูคาวิทยาคม จ.น่าน  
            ดร.เพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ กรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม (CG & CSR) EXIM BANK นายอนุสรณ์
เอมกมล กรรมการ CG & CSR EXIM BANK และนางขวัญใจ เตชเสนสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท
ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จำกัด มอบเงินบริจาคจากลูกค้า ผู้บริหาร และพนักงาน EXIM BANK จำนวนทั้งสิ้น 567,450 บาท ให้กับ
นายสิทธิพล พรมมินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนภูคาวิทยาคม เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงสนามเด็กเล่นและห้องสมุด ซื้อหนังสือและอุปกรณ์กีฬา รวมทั้งทุนการศึกษาและค่าอาหารกลางวัน พร้อมมอบหนังสือและสื่อการเรียนการสอนที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาให้แก่นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนภูคาวิทยาคม อ.ปัว จ.น่าน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” เพื่อสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้และการศึกษาของนักเรียนในท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าลัวะ ครอบครัวยากจน เมื่อเรียนจบจะได้รับโอกาสให้เข้าศึกษาต่อที่กาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวง สาขาวิชาศิลปกรรมเครื่องเงิน
โดยการสนับสนุนของบริษัท ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จำกัด ลูกค้า EXIM BANK
 
  EXIM BANK จับมือกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกยุค Next Normal
 
            นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK ลงนามกับ
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ในบันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือด้านการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทย”
เพื่อบูรณาการข้อมูลและสนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยทั้งสอง หน่วยงานจะร่วมมือกันเตรียมความพร้อมทั้งข้อมูล ความรู้ เงินทุน และเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจไทย
สู่ตลาดโลกยุค Next Normal เพิ่มมากขึ้น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมเสวนาส่งเสริม SMEs ไทยบุกตลาด RCEP
เพิ่มพูนศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
 
            นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “การใช้สิทธิประโยชน์จาก RCEP ส่งเสริม SME แข่งขันในตลาดสากล” ภายใต้โครงการส่งเสริม SME ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล ของกระทรวงพาณิชย์ โดยมี ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นวิทยากรเสวนาแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ หัวข้อ “ผู้ส่งออก...ปรับตัวอย่างไร ไม่ให้ถูก Disruption” เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจ SMEs ไทยเติบโตได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก พร้อมทั้งสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ในการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จับมือกรมการค้าต่างประเทศ ส่งเสริมนวัตกรรมสินค้าเกษตรไทย
จับคู่เจรจาธุรกิจเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของไทยในตลาดโลก
 
            นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK เป็นประธานเปิดงานเจรจาจับคู่ธุรกิจงานวิจัยสินค้าเกษตรนวัตกรรม Agri-Tech Innovation Connection 2022 : นวัตกรรมสินค้าเกษตรไทยแห่งอนาคต จัดโดยกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อต่อยอดผลงานวิจัยด้านนวัตกรรมสินค้าเกษตรที่พร้อมใช้ประโยชน์ไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ ผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างนักวิจัย ผู้ประกอบการ และหน่วยงานสนับสนุน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศอย่างยั่งยืน โดยมี
นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับ พร้อมนำทีมร่วมให้คำปรึกษาด้านการเงินเพื่อพัฒนาต่อยอดสินค้าในเชิงพาณิชย์ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ปลดล็อกให้กู้ “บุคคล” สูงสุด 2 ลบ. ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องการส่งออก
สร้างสภาพคล่องนักรบเศรษฐกิจไทยในตลาดโลกและกระตุ้นส่งออกปี 65
 
            EXIM BANK ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อเอ็กซิมสร้างธุรกิจเพื่อบุคคลธรรมดา” เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา ทั้งที่เป็นผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายสินค้าหรือบริการแก่ผู้ส่งออก หรือผู้ดำเนินธุรกิจในประเทศที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการส่งออก วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.75% ต่อปี สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2566

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า โลกการค้ายุค Next Normal สร้างโอกาสให้บุคคลธรรมดาเข้ามาทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น ทั้งการค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และการรับจ้างผลิตวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมในห่วงโซ่การส่งออก (Supply Chain) ให้กับผู้ประกอบการตั้งแต่ขนาดย่อมไปจนถึงขนาดกลางและขนาดใหญ่ จากสถิติพบว่าใน 3 ปีแรกของ SMEs ที่ส่งออกส่วนใหญ่จะเริ่มต้นอยู่ในห่วงโซ่ Supply Chain เริ่มทำธุรกิจจนคุ้นชินจึงเริ่มสร้างแบรนด์ของตนเอง เมื่อผันตัวจากผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้แบรนด์อื่น (Original Equipment Manufacturer : OEM) เป็นผู้ผลิตสินค้าในนามแบรนด์ของตัวเอง (Original Brand Manufacturer : OBM) ทำให้มีความต้องการเงินทุนเสริมสภาพคล่องมากขึ้น “สินเชื่อเอ็กซิมสร้างธุรกิจเพื่อบุคคลธรรมดา” จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ EXIM BANK พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยปลดล็อกให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ใน Supply Chain การส่งออกของไทยมากยิ่งขึ้น และกระตุ้นการเติบโตของภาคการส่งออกไทยปี 2565

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ปัญหาของผู้ประกอบการรายย่อยในขณะนี้คือ การเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนหรือขาดสภาพคล่องในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจยังไม่ได้เริ่มต้นหรือเพิ่งเริ่มต้น จึงเต็มไปด้วยปัจจัยลบที่เป็นความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจและไม่ได้รับการพิจารณาสินเชื่อง่ายนัก ขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะดอกเบี้ยเงินกู้ที่เป็นขาขึ้น EXIM BANK จึงได้ “สานพลัง” ความร่วมมือกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้ค้ำประกันสินเชื่อแก่บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้กู้สินเชื่อเอ็กซิมสร้างธุรกิจเพื่อบุคคลธรรมดาในสัดส่วน 100% โดยสามารถใช้บุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันร่วมด้วยได้ ผู้กู้ต้องเป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ส่งออก หรือผู้ดำเนินธุรกิจในประเทศที่มีรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศ วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.75% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี เริ่มต้นบวก 2% สูงสุดไม่เกินบวก 6%) สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2566

          ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของ “เกมเปลี่ยนประเทศไทย” ที่ EXIM BANK ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนผู้ส่งออกไทยมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของภาคส่งออก และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ทั้งนี้ SMEs ไทยในปัจจุบันยังมีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพียง 34% ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development : OECD) ส่วนใหญ่มีสัดส่วน 50% ขึ้นไป EXIM BANK จึงเดินหน้าสานพลังความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตของ SMEs ในระดับฐานรากให้พร้อมเข้าสู่ Supply Chain การส่งออกของไทย ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลกได้ในที่สุด อาทิ การสร้าง EXIM Thailand Pavilion ให้เป็นทางเลือก E-Commerce ของ SMEs ไทยที่สนใจโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใน 1 ปีแรกที่เข้าร่วมโครงการ และการจัดให้มี SMEs Export Studio พัฒนาดีไซน์บรรจุภัณฑ์สินค้าส่งออกของ SMEs ไทย เป็นต้น

          นอกจากสินเชื่อเอ็กซิมสร้างธุรกิจเพื่อบุคคลธรรมดาแล้ว EXIM BANK ยังมีสินเชื่อสำหรับนิติบุคคลยื่นขอกู้ได้อีกคือ สินเชื่อ
ผู้ส่งออกป้ายแดง
สินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการส่งออกและนำเข้า สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ Start-up และกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs
ที่เริ่มต้นส่งออก โดยเน้นกลุ่มลูกค้าสำคัญในกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve และอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วงเงินกู้สูงสุดสำหรับลูกค้าใหม่ 2 ล้านบาท และลูกค้าปัจจุบัน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5% ต่อปี และสินเชื่อ EXIM Biz Transformation Loan สินเชื่อเพื่อปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร หรือซอฟต์แวร์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าส่งออกซึ่งขยายระยะเวลาให้กู้ถึง 30 มิถุนายน 2566 วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2% ต่อปี ผ่อนชำระนาน 7 ปี

          “EXIM BANK ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดทางธุรกิจ ควบคู่กับสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ชุมชนและธุรกิจตั้งแต่ระดับฐานรากไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม เพื่อกระตุ้นให้เกิดนักรบเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งในตลาดโลกจำนวนมากขึ้น อันจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน รับกับเทรนด์การค้าของโลกยุคใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและโอกาสของผู้ที่เข้าถึงได้ด้วย ‘ความกล้า’ และ ‘ความพร้อม’ เพื่อความเป็นอยู่ของชุมชน สังคม และโลกที่ดีขึ้นในระยะยาว” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินแก่วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
กระตุ้นอุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวและปรับตัวสู่โลกยุค Next Normal
 
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และ ดร.ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ในรูปแบบวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนจำนวนรวม 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนทางการเงินให้ บวท. ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมการบินเริ่มฟื้นตัวและปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการใช้ชีวิตในโลกยุค Next Normal ณ ศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศเขตสนามบินกรุงเทพ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเร็ว ๆ นี้

          EXIM BANK มุ่งดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ด้วยภารกิจหลัก “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” การ
พัฒนาผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมของไทยให้เติบโตไปสู่อนาคต โดยที่ผ่านมา EXIM BANK ให้การสนับสนุนทางการเงินกับ
ธุรกิจสายการบิน ทั้งเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่อง พักชำระหนี้ และปรับตารางการผ่อนชำระให้สอดคล้องกับสถานการณ์และ
แนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้กับ บวท. ในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย
กลับมาเป็นเครื่องยนต์หลักที่แข็งแกร่งช่วยเร่งการฟื้นฟูและขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป
 
  EXIM BANK ร่วมแสดงพลังวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2565  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และพนักงาน EXIM BANK ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังต่อต้านคอร์รัปชัน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2565 และนางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการ
ผู้จัดการ พร้อมผู้แทนพนักงาน EXIM BANK ร่วมงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2565 จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด “ผู้นำ...กับการปราบโกง” ณ สถานีกลางบางซื่อ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 5/2565  
            นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหารจากสถาบันการเงินของรัฐอีก 7 แห่ง เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 5/2565 โดยมีนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และประธานกรรมการสมาคมฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ปี 2566-2568 และประเด็นความร่วมมืออื่น ๆ ร่วมกัน ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK และ SMI พบปะหารือแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก  
            นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พบปะหารือกับนายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (Small & Medium Industrial Institute : SMI) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร SMI และ ส.อ.ท. เกี่ยวกับแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. ด้วยผลิตภัณฑ์และเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมของ EXIM BANK เพื่อสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยสู่ตลาดโลกและขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK หารือธนาคารพัฒนาเอเชีย
พัฒนาโครงการ Green Financing เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอาเซียน
 
            ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนางวันเพ็ญ อรรชุนเดชะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พบปะหารือกับนายอาเหม็ด เอ็ม ซาอิด รองประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) นายอานุช เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทน ADB ประจำประเทศไทย และนายเจย์ รูพ
รองผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทน ADB ประจำประเทศไทย เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาโครงการ Green Financing
ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอาเซียน รวมถึงการจัดทำกรอบการระดมทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Financing Framework) สำหรับการออกพันธบัตรสนับสนุนโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond) ของ EXIM BANK ในปี 2565 ณ ร้านสตีฟ คาเฟ่ แอนด์
ครุยซีน สาขาพระราม 6 เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมยินดี  
  ครบรอบ 107 ปี กรมสรรพากร  
            นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีพร้อมมอบเงินบริจาคสมทบทุนมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมสรรพากรครบรอบปีที่ 107 แก่
นายสมศักดิ์ อนันทวัฒน์ รองอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ณ กรมสรรพากร เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  รองปลัดกระทรวงพาณิชย์  
            นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนางวันเพ็ญ อรรชุนเดชะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับนางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งหารือแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการไทยภายใต้บทบาทของ EXIM BANK ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK แต่งตั้งผู้บริหาร  
            EXIM BANK แต่งตั้งนางสาวกมลวรรณ รามเดชะ เป็นผู้อำนวยการสำนักกรรมการผู้จัดการ
มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป


          EXIM BANK แต่งตั้งนางสาวกมลวรรณ รามเดชะ เป็นผู้อำนวยการสำนักกรรมการผู้จัดการ ดูแลการกำหนดนโยบาย กลยุทธ์ เป้าหมาย และแผนการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งรับผิดชอบ ประสานงาน และสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธนาคาร กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารระดับสูงให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

          นางสาวกมลวรรณจบการศึกษาปริญญาโท การจัดการมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยการจัดการ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยมหิดล (เกียรตินิยม) และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยวอร์ริค สหราชอาณาจักร และปริญญาตรี ครุศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง) เข้าร่วมงานกับ EXIM BANK ตั้งแต่ปี 2538 เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากระบวนการและนวัตกรรม ในปี 2558 และ 2560 ตามลำดับ
 
 

          EXIM BANK แต่งตั้งนางสาวจิตราวดี ศรีวิจิตร เป็นผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

          EXIM BANK แต่งตั้งนางสาวจิตราวดี ศรีวิจิตร เป็น ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ดูแลงานด้านการวางแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ การปรับเปลี่ยนและทบทวนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับทิศทางและสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

          นางสาวจิตราวดีจบการศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ และหัวหน้าวางแผนและวิเคราะห์ทางการเงิน ธุรกิจรายย่อย ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ก่อนเข้าร่วมงานกับ EXIM BANK นางสาวจิตราวดีดำรงตำแหน่งหัวหน้าวางแผนและวิเคราะห์ทางการเงิน ภาพรวมธนาคารและบริษัทย่อย ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน)

 
  หน้าหลัก  I  Share โลกเศรษฐกิจ  I  Data Digest  I  ส่องเทรนด์โลก  I  เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ
CEO Talk  I  แนะนำบริการ  I  สรุปข่าว