งานครบรอบ 25 ปี EXIM BANK  
  EXIM BANK ฉลองครบรอบ 25 ปี ร่วมกับภาครัฐและเอกชนบริจาคสมทบทุน
สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
 
        นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ กรรมการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหาร EXIM BANK ให้การต้อนรับ
ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมยินดีในงานครบรอบ 25 ปี EXIM BANK และร่วมกับ
EXIM BANK บริจาคเงินสมทบทุนสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล
รามาธิบดี และในโอกาสนี้ได้พบปะสังสรรค์กับอดีตกรรมการและผู้บริหารธนาคาร ณ EXIM BANK
สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562
 
  EXIM BANK ครบรอบ 25 ปี ชูบทบาทเชื่อมผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดใหม่
พัฒนาผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้สร้างผู้ส่งออก SMEs ไทยที่แข่งขันได้ในทุกตลาด
 
        นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ในปี 2562 EXIM BANK
ครบรอบ 25 ปีนับจากเปิดดำเนินงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2537 และก้าวสู่ปีที่ 3 ของการปรับบทบาทใหม่
ตามแผนแม่บท 10 ปี (ปี 2560-2570) EXIM BANK จึงได้ทบทวนและปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์เพื่อให้
สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและทิศทางเศรษฐกิจของไทย โดยกำหนด 6 ยุทธศาสตร์หลัก
ได้แก่ 1. เชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ 2. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
และภาคอุตสาหกรรมของประเทศ 3. ป้องกันความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุนไทยในต่างประเทศ
4. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ 5. เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ
เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. พัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ

      จากยุทธศาสตร์ดังกล่าว EXIM BANK จะทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างเครือข่ายธุรกิจ เป็นตัวกลาง
สร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจรุกตลาดใหม่ (New Frontiers)
โดยทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศเพื่อเชื่อมผู้ประกอบการไทย รวมทั้งสินค้าและ
บริการของไทย เข้ากับภาคการผลิตและผู้บริโภคในประเทศตลาดใหม่ รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษา
รูปแบบที่เหมาะสมในการเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการในตลาดใหม่ เช่น อินเดีย แอฟริกา และเวียดนาม
หลังจากการเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK แห่งแรกและแห่งที่สองในย่างกุ้งและเวียงจันทน์ และ
แห่งที่ 3 ในกรุงพนมเปญ เดือนมีนาคมนี้

      ขณะเดียวกัน EXIM BANK จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการเงิน สนับสนุน
ผู้ประกอบการไทยให้รุกตลาดใหม่ได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและ
เครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศที่จะขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
รวมทั้งสามารถยกระดับการผลิตไปสู่ระบบที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูงได้ เพื่อสร้างมูลค่าของ
สินค้าไทยให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเติมเต็มช่องว่างองค์ความรู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทย
มีข้อมูลเชิงลึกและรอบด้าน นำไปปรับใช้ในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนได้
อย่างประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ

      ในการเติมเต็มช่องว่างทางการเงินและองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ
ขนาดย่อม (Small Enterprises) ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 99% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ และ
สัดส่วน GDP ของผู้ประกอบการขนาดย่อมต่อ GDP ประเทศยังเติบโตอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับ 30%
ในปี 2560 หากผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถยกระดับเป็นผู้ส่งออกได้มากขึ้น จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ให้เติบโตได้อีกมาก EXIM BANK จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXIM Excellence
Academy : EXAC)” ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานจัดกิจกรรมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มต้นส่งออก
ได้หรือขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น แบ่งตามระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ ดังนี้ 1. กลุ่มผู้ที่ยังไม่เคย
ส่งออก (Neo-exporters) 2. กลุ่มผู้ที่เคยส่งออกบ้างแล้ว (Mid-pros)
และ 3. กลุ่มผู้ที่ส่งออก
อยู่แล้ว (High Flyers)
ซึ่งยังต้องการการสนับสนุนทางการเงินและข้อมูลเพื่อขยายธุรกิจส่งออก
ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าจะจัดกิจกรรมตั้งแต่ระดับการบ่มเพาะความรู้
ที่จำเป็นต่อการเริ่มต้นและขยายธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ พาไปสำรวจตลาดหรือออกงานแสดงสินค้า
ในหรือต่างประเทศ จับคู่ธุรกิจกับผู้ส่งออกที่เป็นเทรดเดอร์หรือผู้ซื้อในต่างประเทศ จัดกิจกรรมเสริม
สร้างความรู้โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนมาให้คำปรึกษาแนะนำในทุกมิติ พัฒนาผลิตภัณฑ์
ทางการเงินสนับสนุนการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ ส่งเสริมการขยายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและ
ต่างประเทศ ไปจนถึงการสร้างสังคมผู้ส่งออก โดยให้ผู้ส่งออกที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งผู้ที่ผ่านการ
อบรมจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า กลับมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเป็นพี่เลี้ยงผู้ส่งออกรุ่นใหม่
ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีชุมชนผู้ส่งออกที่เข้มแข็งและแข่งขันได้ในทุกตลาดทั่วโลก
 
        ในโอกาสครบรอบ 25 ปี EXIM BANK พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อส่งออกเพิ่มสุข
(EXIM Happier Credit)”
เป็นสินเชื่อหมุนเวียนช่วงก่อนและหลังการส่งออก ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นส่งออก
(Start up) และไม่เคยได้รับสินเชื่อจาก EXIM BANK จะได้รับพิจารณาวงเงินสินเชื่อสูงสุด 700,000
บาทต่อราย ส่วนลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย อัตรา
ดอกเบี้ย/อัตรารับซื้อลด ปีแรกอยู่ที่ 5.50% ต่อปี ปีที่ 2 อยู่ที่ Prime Rate -0.50% ต่อปี (หรือ 5.75%
ต่อปี) พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สูงสุดเท่ากับวงเงิน
สินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เพียงบุคคลค้ำประกัน สิทธิประโยชน์
เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอบรมของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าและค้าขายออนไลน์ หรือ
ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมกับ EXIM BANK จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.50% ต่อปี บริการใหม่นี้
มีเป้าหมายอนุมัติวงเงินรวม 400 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมไม่น้อยกว่า 550 ราย เริ่มต้นส่งออกได้หรือส่งออกได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจและความเสี่ยง
จากอัตราแลกเปลี่ยน

      ผลการดำเนินงานของ EXIM BANK ภายใต้บทบาทใหม่ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 EXIM BANK มีเงินสินเชื่อคงค้างสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 108,589 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 16,703 ล้านบาท หรือ 18.18% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 38,412 ล้านบาท
และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 70,177 ล้านบาท ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 197,120
ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 106,362 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม
2561 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs เท่ากับ 42,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,765 ล้านบาท หรือ
15.53% ส่งผลให้ EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 1,365 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs Ratio)
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 อยู่ที่ 3.78% โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน4,103 ล้านบาท และมีเงิน
สำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 9,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,436 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็น
สำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4,572 ล้านบาทคิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรอง
ที่กันไว้แล้วต่อสำรองหนี้พึงกัน 205.25% ทำให้ EXIM BANK ยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง

      ขณะเดียวกัน EXIM BANK ได้ขยายบริการประกันการส่งออกเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงให้
ผู้ประกอบการไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินจากคู่ค้าในต่างประเทศ ทั้งในตลาดการค้าเดิมและตลาดใหม่
ในปี 2561 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุน
เท่ากับ 92,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26,545 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs
จำนวน 22,278 ล้านบาท หรือ 24.10% ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม

      ในส่วนของการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ
ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 84,245
ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2561 จำนวน 39,265 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสนับสนุน
ผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว
เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้ส่งออกไทยมีโอกาสที่จะขยายการค้า
การลงทุนระหว่างประเทศอีกมาก โดย ณ สิ้นปี 2561 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 29,441 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2560 เท่ากับ 1,546 ล้านบาท

     “EXIM BANK เร่งเดินหน้าพัฒนาองค์กรและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
โดยนำพาผู้ประกอบการไทยไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในตลาดใหม่ ด้วยการทำงาน
ร่วมกันกับภาครัฐและเอกชนในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย
ด้วยความพร้อมทั้งด้านเครือข่ายธุรกิจ การเงิน และองค์ความรู้ นำไปสู่การพัฒนาประเทศไทย
อย่างยั่งยืน” นายพิศิษฐ์กล่าว

 
  EXIM BANK เข้าร่วมโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน  
            นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการ
สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รุ่นที่ 5 (Young Entrepreneur Network Development Plus
Program: YEN-D Season V) โดยมีนางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในงาน ณ กระทรวง
พาณิชย์ เมื่อเร็วๆนี้ ทั้งนี้ EXIM BANK เป็นพันธมิตรร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการส่งเสริมให้เกิดการ
จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างเครือข่ายการทำธุรกิจ และเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนของ
ผู้ประกอบการไทยในประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปีนี้จะขยายการสร้างเครือข่ายออกไปยังประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียและ
กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในจังหวัดชายแดน ได้แก่ ตาก สระแก้ว สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร
  CSR  
  EXIM BANK ติดตั้งระบบฉีดพ่นละอองน้ำแก้ไขวิกฤตคุณภาพอากาศ  
         EXIM BANK ติดตั้งระบบฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (PM 2.5)
บริเวณดาดฟ้าอาคารเอ็กซิม และสวนของธนาคาร เพื่อดำเนินมาตรการฉีดพ่นละอองน้ำและสื่อสาร
แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านคุณภาพอากาศกับฝ่ายสิ่งแวดล้อมของสำนักงานเขตพญาไทอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย ดร. น้องนุช เหล่ามณีรัตนาภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ
ได้นำนายสุชัย สกุลรุ่งเรืองชัย ผู้อำนวยการเขตพญาไท เยี่ยมชมจุดติดตั้งระบบ ณ EXIM BANK
สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมกิจกรรมช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสผ่านมูลนิธิฟอร์เด็ก  
         นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม
EXIM BANK นำผู้บริหารและพนักงาน EXIM BANK ร่วมกิจกรรมและมอบเงินบริจาคในโอกาสครบรอบ
21 ปีมูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูพัฒนาเด็กและครอบครัว (ฟอร์เด็ก) ให้แก่ ดร.อัมพร วัฒนวงศ์ ผู้ก่อตั้งและ
ประธานกรรมการฟอร์เด็ก เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เด็กด้อยโอกาส ณ สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนวัดมหาวงษ์ มูลนิธิฟอร์เด็ก 6 จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ มูลนิธิมีพันธกิจในการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ด้อยโอกาสและครอบครัวให้สามารถ
พึ่งตนเอง และพัฒนาตนเองเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพต่อไป
 
  หน้าหลัก   I   บทความพิเศษ   I   Share โลกเศรษฐกิจ   I   เปิดประตูสู่ตลาดใหม่
ส่องเทรนด์โลก   I   เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ   I   แวดวงคู่ค้า   I   แนะนำบริการ   I   สรุปข่าว