“ไข้เลือดออก” ยังเป็นโรคระบาดที่อันตรายในประเทศเขตร้อนที่มี “ยุงลาย” เป็นพาหะของโรค ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ทำให้เภสัชกรหญิงวันทณีย์ เสนาคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเวนเชอร์ จำกัด มองเห็นโอกาสในการนำสมุนไพรไทยมาต่อยอดเป็นสินค้านวัตกรรมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100 % ปลอดภัยต่อผู้บริโภค จนกลายเป็นผู้ผลิตสติกเกอร์กันยุงรายแรกของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ BUG GUARD และต่อยอดไปสู่สติกเกอร์หัวหอมบรรเทาหวัดคัดจมูกรายแรกของโลกภายใต้แบรนด์ HAPPY NOZ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งผู้บริโภคใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น
จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ
สติกเกอร์กันยุง BUG GUARD มีที่มาจากประสบการณ์ของตนเองที่เคยป่วยเป็นไข้เลือดออกในวัยเด็ก แล้วสงสัยว่าทำไมจึงไม่มียารักษา กระทั่งเรียนจบคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงทราบว่าบริษัทยาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่อากาศหนาว ไม่พบปัญหาเรื่องยุงหรือไข้เลือดออกมากนัก ทำให้การพัฒนายาเพื่อรักษาโรคเขตร้อนมีไม่มาก ประกอบกับร้านขายยาในขณะนั้นไม่มีผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงสำหรับเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปีเลย ตนจึงเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงจากต่างประเทศในรูปแบบของสติกเกอร์มาทดลองใช้ และพบว่าไม่สามารถป้องกันยุงลายในประเทศเขตร้อนได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำสมุนไพรไทยมาวิจัยเพื่อผลิตแผ่นสติกเกอร์กันยุงรายแรกของไทยและประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด นำมาสู่การพัฒนาต่อยอดเป็นสติกเกอร์หัวหอมบรรเทาหวัดคัดจมูกที่มีความปลอดภัยต่อเด็กเล็กมากกว่าขี้ผึ้งบรรเทาหวัดทั่วไป ภายใต้แบรนด์ HAPPY NOZ
แนวคิดในการดำเนินธุรกิจ
ปรัชญาของเราคือ การส่งมอบความสุขที่เหนือความคาดหมาย เราต้องการจะเป็นผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมยาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเพื่อดูแลสุขภาพผู้คนทั่วโลก เราสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านสินค้าและบริการที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมของเรา ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและสังคมไปด้วย โดยมีค่านิยมที่เรายึดถือ 5 ข้อหรือเรียกสั้น ๆ ว่า SPICE ประกอบด้วย Sustainable Growth, Performance, Innovation, Customer และ Ecosystem
กุญแจแห่งความสำเร็จ
วันเวนเชอร์ก่อตั้งในปี 2557 ปัจจุบันมีสินค้าทั้งหมด 5 ประเภท ในปี 2564 มียอดขายมากกว่า 140 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดกว่า 7,961% นับตั้งแต่ก่อตั้ง ผลิตภัณฑ์ของเรามียอดขายเป็นอันดับ 1 ในไทย ติด Top 5 ของเชนร้านขายยาอรินแคร์ใน 6 เดือนแรก ติด Top 100 ของร้านยา ใน 7-11 ภายใน 4 เดือนแรก เราได้รับการจัดอันดับให้เป็น Supplier ในกลุ่ม Rank A ของ 7-11 และด้วยปรัชญาการทำธุรกิจที่ต้องการส่งมอบความสุขที่เหนือความคาดหมายให้ลูกค้า เราจึงไม่หยุดสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เราได้รับรางวัล Thailand Green Design Award 2016 จากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards จากโครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ โดย 11 องค์กรระดับประเทศ
การรับมือกับวิกฤต COVID-19
การระบาดของ COVID-19 สร้างผลกระทบกับกลุ่มลูกค้าหลักของเราเป็นอย่างมาก ทำให้ยอดขายลดลงในช่วงแรก แต่ด้วยการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของเรา ทำให้เราออกผลิตภัณฑ์สติกเกอร์หัวหอมตัวใหม่ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันไวรัส และผ่านการทดสอบจากสถาบันชั้นนำจากประเทศอังกฤษ จึงเป็นการตอบสนองกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้อย่างรวดเร็ว ทำให้วิกฤตครั้งนี้กลายเป็นโอกาสขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เช่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อ และมีอัตราการเติบโตสูงทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเดิมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป้าหมายธุรกิจในอนาคต
เรามีแผนกลยุทธ์ 5 ปี ที่จะพัฒนาธุรกิจหลักให้เติบโตมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับขยายกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นกลุ่มแม่และเด็ก เนื่องจากอัตราการเกิดของประชากรโลกที่ต่ำลงทำให้จำนวนประชากรเด็กลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งมีผลกับการเติบโตของยอดขาย เราจึงขยายกลุ่มลูกค้าให้สมาชิกทุกคนในบ้านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของเราได้ เช่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ซึ่งตลาดลูกค้ากลุ่มนี้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกประเทศและมีกำลังซื้อสูงด้วย นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยบริหารจัดการภายในขององค์กรด้วยการนำหลักการ Bio-Circular-Green หรือ BCG และหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ร่วมกับสถาบันต่าง ๆ และหาพันธมิตรสินค้าในกลุ่มนวัตกรรมเพื่อช่วยขยายธุรกิจให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
การสนับสนุนของ EXIM BANK
EXIM BANK อยู่กับเรามาตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งเดิมวันเวนเชอร์ใช้บริการพิมพ์สติกเกอร์จากโรงพิมพ์แห่งเดียวในประเทศไทย กระทั่งเห็นว่าการผูกขาดกับโรงพิมพ์แห่งเดียวโดยไม่สามารถผลิตเองได้ครบวงจรเป็นความเสี่ยงของธุรกิจ จึงได้ลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก EXIM BANK นอกจากนี้ EXIM BANK ยังแนะนำให้เรามองตลาดต่างประเทศ ส่งเสริมให้ได้มีโอกาสอบรมพัฒนาความรู้ด้านการส่งออก ทำ Business Matching รวมไปถึงการสนับสนุนทางการเงิน ซึ่งนอกจากการสนับสนุนด้านเงินทุนและการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ EXIM BANK ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้เรามาตลอดในทุกช่วงอายุของธุรกิจ เรียกว่าเราเติบโตมาพร้อม EXIM BANK เลยทีเดียว