EXIM BANK ลงทุน 100 ล้านบาทในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ บทบาทใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาพลังงาน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจไทย

วันที่ประกาศ 20 มีนาคม 2551
EXIM BANK ลงทุน 100 ล้านบาทในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ บทบาทใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาพลังงาน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจไทย
EXIM BANK รุกบทบาทใหม่ ร่วมลงทุน 100 ล้านบาทในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ซึ่งมี บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารกองทุน เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการพัฒนาแหล่งพลังงานและพลังงานทดแทน รวมทั้งพลังงานหมุนเวียน อันจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
ดร.อภิชัย บุญธีรวร (ขวาสุด) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ ดร.พิชิต อัคราทิตย์ (ซ้ายสุด) กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนของ EXIM BANK จำนวน 100 ล้านบาทในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ซึ่งมี MFC เป็นบริษัทจัดการกองทุน โดยมี ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี (ที่ 2 จากซ้าย) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนาม และ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการ EXIM BANK ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2551
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า การร่วมลงทุนของ EXIM BANK จำนวน 100 ล้านบาทในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ซึ่งมีการระดมทุนประมาณ 2,500 ล้านบาทในปัจจุบัน ถือเป็นบทบาทใหม่ในเชิงรุกของ EXIM BANK ที่จะเข้าไปมีส่วนกระตุ้นการเติบโตของภาคธุรกิจซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการพัฒนาแหล่งพลังงานและพลังงานทดแทน รวมทั้งพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานลม น้ำ แสงอาทิตย์ และเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อประโยชน์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมและรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศท่ามกลางวิกฤตราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้ฝ่ายวาณิชธนกิจ EXIM BANK ได้ดูแลจัดสรรเงินลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพเติบโต มีการบริหารจัดการที่ดี เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่ขาดเงินทุนสามารถขยายกิจการให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน สำหรับการลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์เป็นการลงทุนครั้งแรกของ EXIM BANK ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานแล้ว ยังส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรรมที่ป้อนวัตถุดิบให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตพลังงานทดแทน ช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนภายในประเทศ ตลอดจนสร้างรายได้ให้แก่ EXIM BANK จากการเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตดี
ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซีกล่าวว่า กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ (MFC Energy Fund) มีมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท อายุโครงการ 10 ปี ขณะนี้ได้ระดมทุนได้ประมาณ 2,500 ล้านบาท จากนักลงทุนสถาบันทั้งกลุ่มธุรกิจการเงินและกลุ่มธุรกิจพลังงานรวม 11 แห่ง กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในบริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับพลังงานพลังงานทดแทนและธุรกิจที่มีส่วนสนับสนุนนโยบายของรัฐด้านพลังงาน สำหรับเงินลงทุนต่อโครงการประมาณ 50-500 ล้านบาท เพื่อช่วยพัฒนาพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) จากแหล่งทรัพยากรภายในประเทศซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซพิษจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนและปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยเมื่อต้นปีนี้ กองทุนได้ลงทุนในบริษัท อี-เอสเทอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิต “ไบโอดีเซล” โดยใช้เทคโนโลยีที่ค้นคว้าและวิจัย โดยผู้ก่อตั้งบริษัทเอง โดยโครงการดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตสูง สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ขณะนี้กองทุนอยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกบริษัทที่จะเข้าร่วมลงทุนกว่า 30 แห่ง คาดว่าจะลงทุนเพิ่มอีก 2-3 โครงการภายในไตรมาส 2 ของปี 2551 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาเชิงลึกเพื่อเตรียมลงทุนในหลายกลุ่มทั้งด้านพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าชีวมวลรวมถึงอุตสาหกรรมเอทานอลด้วย
เอกสารที่เกี่ยวข้อง