|
|
|
อัตราขยายตัวของยอดขาย E-Commerce ปี 2563 รายภูมิภาค |
|
|
|
|
|
|
|
สถานการณ์ตลาด E-Commerce ปี 2563 |
|
|
|
• |
ยอดขาย E-Commerce โลกปี 2563 ขยายตัว 28% อยู่ที่ 4.3 Tri.USD เทียบกับยอดการค้าปลีกโลกโดยรวมที่หดตัว 3% โดยได้อานิสงส์จากมาตรการ Lockdown และ Social Distancing ที่ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกต้องหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและ Ecosystem ที่ครบวงจรช่วยสร้างความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม ช่วยสนับสนุนให้ตลาด E-Commerce ขยายตัวอย่างร้อนแรง |
|
|
|
• |
ตลาดโตเร็วสุด : ลาตินอเมริกา ขยายตัว 37% โดยนอกเหนือจากอานิสงส์ของ COVID-19 ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากวิธีชำระเงินรูปแบบใหม่ เช่น Digital Wallets รวมถึงเครือข่าย 4G/5G ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วภูมิภาคมากขึ้น เพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาด E-Commerce ได้เร็วและสะดวกขึ้น ทำให้เกิดผู้ซื้อหน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 50 ล้านราย (ราว 8% ของประชากรทั้งภูมิภาค) |
|
|
|
• |
ตลาดใหญ่สุด : จีน มีมูลค่าตลาดกว่าครึ่งหนึ่งของ E-Commerce โลกอยู่ที่ 2.3 Tri.USD ขยายตัว 28% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก Ecosystem ของการค้าออนไลน์ที่ครบวงจร ทั้งจากระบบชำระเงินออนไลน์ที่สะดวกรวดเร็ว เช่น WeChat Pay รวมถึงการเติบโตของ Social Commerce ใหม่ ๆ เช่น TikTok, Pinduoduo ช่วยกระตุ้นตลาด ส่งผลให้มีผู้ซื้อออนไลน์เกือบ 800 ล้านคน |
|
|
|
|
แนวโน้มตลาด E-Commerce โลกปี 2564 |
|
|
|
ปี 2564 E-Commerce โลกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องแม้ชะลอความร้อนแรงลงเหลือขยายตัว 14% หลังจากสถานการณ์ COVID-19 มีทิศทางดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกเริ่มกล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทรนด์การบริโภคยุคใหม่และ Ecosystem ที่ครบวงจร ของ E-Commerce ทำให้ตลาด E-Commerce ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน ล่าสุด eMarketer คาดการณ์ว่ายอดขาย E-Commerce ของจีน ปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 2.8 Tri.USD คิดเป็นสัดส่วน 52% ของยอดค้าปลีกทั้งประเทศ และจะทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นประเทศแรกของโลกที่ตลาด E-Commerce แซงการค้าปลีกแบบดั้งเดิม |
|
|
|
ที่มา : eMarketer, LABS, Multichannel Merchant, Worldometer, Statista, South China Morning Post |
|
|
|
|
|
|
สินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพมาแรงยุค New Normal |
|
|
|
|
|
อัตราขยายตัวของยอดขายสินค้าที่เติบโตสูง 5 อันดับแรกของโลกปี 2563 |
|
|
|
|
ที่มา : Digital Information World, William Reed |
|
|
|
|
• |
สินค้าที่เติบโตสูงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal โดยเฉพาะอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ได้อานิสงส์จากเทรนด์ดูแลสุขภาพและสุขอนามัย ถัดมาเป็นกลุ่มสินค้าที่เชื่อมโยงกับการทำกิจกรรมที่บ้านทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่ กลุ่มแฟชั่นและความงาม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการติดตาม Social Media และ Influencers ผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มของเล่น เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในบ้าน ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านรวมถึงการ Work from Home มากขึ้น |
|
|
|
|
|
แพลตฟอร์มดาวรุ่งโตเร็วจาก COVID-19 |
|
|
|
|
|
นอกเหนือจากแพลตฟอร์มชั้นนำ เช่น Amazon, eBay, Alibaba ยังมีแพลตฟอร์มดาวรุ่งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น |
|
|
|
|
|
หมายเหตุ : ตัวเลขหมายถึงจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปี 2563 (% YoY)
ที่มา : Statista, Mercado Libre, Etsy, Wayfair, RIS, Multichannel Merchant, Oxford Business Group |
|
|
|
|
|
• |
Mercado Libre : แพลตฟอร์มสัญชาติอาร์เจนตินาที่ให้บริการทั่วภูมิภาคลาตินอเมริกา มีผู้ใช้บริการกว่า 130 ล้านคน (ราว 20% ของประชากรทั้งภูมิภาค) โดยในปี 2563 ได้มีการขยายพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าในเม็กซิโกเป็น 200 ตร.กม.จากเดิมมีเพียง 30 ตร.กม. เพื่อรองรับปริมาณสินค้าที่เติบโตก้าวกระโดด |
|
|
|
• |
Etsy : แพลตฟอร์มสัญชาติสหรัฐฯ ที่เน้นจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด/งานฝีมือ/ของเก่า โดยในปี 2563 ได้ปรับปรุงระบบค้นหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อในหลายมิติ เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าถึงสินค้าที่ชอบและตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ง่ายขึ้น |
|
|
|
• |
Wayfair : แพลตฟอร์มสัญชาติสหรัฐฯ สำหรับซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้านซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วจากการที่ผู้คนอยู่บ้านมากขึ้นและต้อง Work from Home ต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการสินค้าและอุปกรณ์เพื่อนำมาปรับปรุง/ต่อเติมบ้านมากขึ้น |
|