PASAYA สิ่งทอสีเขียวแบรนด์ไทย มัดใจคนทั้งโลก

วันที่ประกาศ 04 มิถุนายน 2567

    
              “สิ่งทอไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก” เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินความจริง เพราะการแข่งขันสินค้าสิ่งทอในตลาดโลกมีค่อนข้างสูง แต่สิ่งทอไทยหลากหลายผลิตภัณฑ์สามารถปักหมุดหมายในตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ได้อย่างแข็งแรง จากการพัฒนาเทคโนโลยีให้ผลิตสิ่งทอที่มีคุณภาพสูง ใช้การออกแบบสร้างความสวยงาม และแตกต่าง มีคุณสมบัติเฉพาะที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พร้อมทั้งมีกระบวนการผลิตที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย “PASAYA” นับเป็นแบรนด์สิ่งทอและเครื่องนอนของไทยที่มีความโดดเด่น มีชื่อเสียงในระดับโลก

3 ทศวรรษสิ่งทอซาติน
              คุณรติยา จันทรเทียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสิ่งทอและเครื่องนอนแบรนด์ PASAYA เปิดเผยจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่า เริ่มจากการเป็นโรงงานสิ่งทอเล็ก ๆ ในนามบริษัทสิ่งทอซาติน ทอผ้าสำหรับใช้ตกแต่งภายในบ้าน ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีเครื่องจักรทอผ้ามือสอง 20 เครื่อง และคนงานทอผ้าราว 50 คน

              คุณรติยากล่าวว่า หากจะแบ่งการเติบโตของบริษัทตามอายุธุรกิจตั้งแต่เปิดกิจการ ช่วง 10 ปีแรกคือ ช่วงของการเริ่มต้นค้นหาตัวเองว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างความแตกต่างอย่างไร จึงได้ลงทุนตั้งหน่วยงานออกแบบ โดยทีมดิไซเนอร์เป็นคนไทยทั้งหมด และตั้งหน่วยงาน IT ทำให้โรงงานทอผ้าเล็ก ๆ แห่งนี้ สามารถทำงานที่แตกต่างและโดดเด่นจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ และมีการพัฒนาระบบงานและซอฟต์แวร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน จึงรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น ๆ เป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) และ ODM (Original Design Manufacturer)

              “ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยอดขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเราออกแบบพัฒนาโครงสร้างและดีไซน์ผ้าตกแต่งใหม่ ๆ ออกมานำเสนอให้กับผู้ขายส่งและแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินค้าขายดีคือ ผ้าม่านและผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ เมื่อยอดขายสูงก็กังวลเรื่องการควบคุมคุณภาพสินค้าจึงตัดสินใจตั้งโรงงานใหม่ขึ้นที่จังหวัดราชบุรี ขยายกำลังการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อจะควบคุมคุณภาพให้ได้ 100% เริ่มก่อสร้างในปี 2538 ก่อสร้างเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการได้ในปี 2547” คุณรติยากล่าว

              ช่วงต่อมาคือ ผลของการปฏิบัติงานที่ควบคุมคุณภาพได้เต็มที่ ทำให้บริษัทสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงาม นวัตกรรมและคุณภาพ เป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้งในยุโรป อังกฤษ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฯลฯ และทำให้เริ่มคิดว่าจีนกำลังจะเปิดประเทศเปิดการค้าเสรีก็กลับมานั่งคิดต่อว่า หากจีนเปิดประเทศแล้วเราจะทำอย่างไร สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า ข้อเสียของการรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์อื่น ๆ หรือผู้ขายรายใหญ่อื่น ๆ จะถูกล็อกราคาสินค้าไว้ ราคาขายเพิ่มขึ้นตามต้นทุนไม่ได้ จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองเพราะเราสร้างสิ่งทอที่ได้รางวัลมากมายแต่คนไทยไม่มีโอกาสได้เห็นหรือได้ใช้สินค้าของเราเลย

กำเนิด PASAYA
              เมื่อเห็นว่าการเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าเป็นหลักไม่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้ ในปี 2555 บริษัทได้สร้างแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองในชื่อ PASAYA โดยนำเสนอสินค้าและบริการคือ ผ้าสำหรับตกแต่งบ้าน บริการรับสั่งตัดสินค้าสิ่งทอที่ใช้ในบ้าน เช่น หมอนอิง ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูโต๊ะ ไปจนถึงผ้าสำหรับตัดเสื้อผ้าและบริการตัดเย็บ สินค้าส่วนใหญ่มีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนแบบดั้งเดิม เป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นไว้หลายปีแล้ว ก็เริ่มได้ออกสู่สายตาผู้บริโภค

              คุณรติยากล่าวว่า “PASAYA” มาจากคำไทยว่า “แพศยา” ที่พบว่า คำนี้มักจะใช้กับผู้หญิงที่มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ เธอจะต้องสวย เก่ง ฉลาด และมีอำนาจในตัวเอง ซึ่งผู้หญิงที่ถูกตราหน้าว่าเป็นแพศยาในประวัติศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดคือ พระนางคลีโอพัตรา จึงได้นำเอาคุณสมบัติเหล่านี้มาแปลงเป็น 4 คำที่สะท้อนความรู้สึกของการได้เห็น สัมผัส และใช้สินค้า PASAYA ในยุคแรก Beautiful, Intelligent, Elegant, and Independent และได้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่ได้ทดลองใช้สินค้าแล้วต้องกลับมาซื้อซ้ำ

              การไม่หยุดพัฒนาของ PASAYA ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถยืนในใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนาน และด้วยคุณสมบัติพิเศษที่มีเฉพาะผ้าปูที่นอนทุกรุ่นของ PASAYA เท่านั้นคือ ปราศจากสารฟอร์มาลดีไฮด์ตามมาตรฐานยุโรป และไม่มีการสะสมเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้ผ้าปูที่นอน PASAYA เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ การันตีได้ด้วยรางวัลมากมายที่ได้รับ เช่น Green Industry Label ฉลากเขียว จากกระทรวงอุตสาหกรรม Thailand Trust Mark จากกระทรวงพาณิชย์ รางวัล Design Excellence Award 2020 และ Best Innovation PM Award 2021

สู่โรงงานสิ่งทอสีเขียว
              คุณรติยากล่าวว่า ก้าวต่อไปของ PASAYA ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการใช้งานที่มีประโยชน์ คุ้มค่ามากขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยนำเอาแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนด้วยการคำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านคือ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) เข้ามาใช้ในการบริหารงาน ในทุกกระบวนการผลิตสินค้าเป็นโรงงานสิ่งทอสีเขียว ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นพิษในการย้อมผ้า ไม่มีน้ำเสียออกจากโรงงาน ลดการใช้ไฟฟ้าด้วยการใช้พลังงานทางเลือก

              คุณรัตติยากล่าวต่อไปว่า เชื่อว่าความพิถีพิถันในการใช้ชีวิต นำไปสู่การมีชีวิตอันสุนทรีย์ มีคุณภาพ มีคุณค่า และรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ใช้สินค้าจะได้รับความสุข มีสุขภาพดี ปลอดภัย จากสินค้าคุณภาพที่ผ่านการออกแบบคิดค้นอย่างละเอียดลึกซึ้ง ผลิตอย่างระมัดระวัง PASAYA ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อการใช้งานที่มีประโยชน์ คุ้มค่ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านประหยัดพลังงาน ซึ่งสามารถทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงได้ 2-4 องศา เมื่อเทียบกับการใช้ผ้าม่านธรรมดา ทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลง ผ้าม่านประหยัดพลังงานได้รับอนุสิทธิบัตร และได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ และรางวัล D Mark และ G Mark จากประเทศญี่ปุ่น โครงการถัดมาคือ การเข้าร่วมออกแบบ ผลิตและจำหน่ายเสื้อประหยัดไฟเบอร์ห้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นเสื้อที่ใส่สบาย ไม่ร้อน ซักแล้วไม่จำเป็นต้องรีด

การสนับสนุนของ EXIM BANK
              คุณรติยากล่าวว่า บริษัทรู้จักกับ EXIM BANK มานานมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่เริ่มส่งออก ในช่วงนั้นได้ใช้บริการ 2 ประเภทคือ วงเงินสินเชื่อระยะสั้น และใช้บริการประกันการส่งออก ในช่วงแรกที่เริ่มส่งออกยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องการชำระเงินค่าสินค้าและไม่รู้จักลูกค้า จึงต้องนำรายชื่อมาเช็กเครดิตว่าผู้นำเข้ารายนี้มีประวัติอย่างไรเพื่อใช้ตัดสินใจว่าจะให้ Credit Limit เท่าไหร่

              “เรามีคู่ค้าที่เป็นผู้แทนจำหน่าย (Distributor) ในต่างประเทศจำนวนมากและทุกคนมีความกระตือรือร้นในการขาย บางครั้งก็ขอขยายวงเงินเครดิตเป็นล้านบาท หรือขอ Credit term นาน 3 เดือน เราก็เริ่มกังวลเรื่องความเสี่ยง บริการประกันการส่งออกและเช็กเครดิตคู่ค้าเป็นบริการที่มีประโยชน์มากในการลดความเสี่ยง ทำให้เกิดความกล้าที่จะค้าขาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็ยังใช้บริการนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง” คุณรติยากล่าว

สิ่งที่อยากฝากถึงคนตัวเล็ก
              การค้าขายข้ามพรมแดนสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยบางรายเป็นเรื่องใหญ่ ปกติการซื้อขายจะมีการขอให้ลูกค้าโอนเงินมัดจำค่าสินค้ามาให้ก่อน แต่บางรายก็ไม่ยอมจ่ายมัดจำ ในขณะที่รายย่อยก็ต้องการขายสินค้าออกไปก็ยอมส่งของไปให้ก่อน ดังนั้นขอแนะนำให้ลดความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันการส่งออก จะลดความกังวลเรื่องการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าได้ ซึ่งบริการนี้ EXIM BANK มีให้เบี้ยประกันไม่สูงมากเกินกว่ารายย่อยจะซื้อได้ ดังนั้นแนะนำผู้ส่งออกรายใหม่ให้ลองใช้บริการคิดว่าคุ้มค่าถ้าได้เปิดตลาดส่งออก